A Blogger by Beamcool

บล็อค ที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ การตลาด seo และ วิธีการ หาเงิน บน อินเตอร์เน็ต เทคนิคในการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต ( เราหมายถึงการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต จริง ๆ ที่ไม่ใช่การชวนเข้า mlm แต่อย่างใดครับ) รวมถึง บริการออนไลน์ ออฟไลน์ ต่าง ๆ ในเครือ Wittybuzz ไว้ด้วยกัน ใครที่เยี่ยมชมนี้ด้วย Internet Explorer แนะนำให้ดาวโหลด Firefox มาใช้จะดีกว่าครับ นอกจากลูกเล่นจะมีเยอะกว่า ยังมีเครื่องมือที่สนับสนุน SEO อีกด้วยครับ


คุณอยากรู้ ขั้นตอนในการออกแบบโลโก้ แบบมืออาชีพพร้อมรายละเอียดต่างๆ ในวันเดียวหรือไม่ ? ถ้าใช่หัวข้อวันนี้เหมาะกับคุณมากครับ... เพราะว่าหัวข้อวันนี้จะพูดถึงการออกแบบโลโก้อย่างมืออาชีพใน 5 ขั้นตอน ! ดังนี้ครับ

1. ศึกษาว่าโลโก้คืออะไร และ มีหน้าที่อย่างไร ?

ก่อนที่คุณจะออกแบบโลโก้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า โลโก้คืออะไร ใช้เป็นตัวแทนของอะไร และเอาไว้ใช้ทำอะไร ? โลโก้นั้นไม่ได้เป็นแค่เครื่องหมายเฉยๆ แต่โลโก้นั้นสะท้อนถึงภาพลักษณ์ในทางการตลาดของธุรกิจของคุณ (Brand : ยี่ห้อ) ผ่านทาง รูปร่าง ตัวอักษร สี หรือ รูปภาพ
โลโก้สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ความเชื่อ ความนิยม และการจดจำเกี่ยวกับองค์กรหรือสินค้า และมันคืองานของ Designer ในการสร้างสรรค์โลโก้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และข้อนี้คือสิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะออกแบบโลโก้
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลโก้

en.wikipedia.org/wiki/Logo

2. ศึกษาหลักการในการออกแบบโลโก้

คุณได้รู้จักความหมายและหน้าที่ของโลโก้แล้ว ตอนนี้คุณจะได้รู้หลักในการสร้างโลโก้ที่ดี โดยหลักการพื้นฐานในการออกแบบโลโก้ มีดังนี้

* โลโก้ต้องสื่อตัวตนได้
* โลโก้ต้องเป็นที่จดจำ
* โลโก้ต้องสื่อได้แม้ไม่ได้ใช้สีสัน
* โลโก้ต้องสื่อได้แม้ขนาดเล็กๆ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการในการออกแบบโลโก้

thelogofactory.com/logo_design.html

3. ศึกษาจากโลโก้ที่ประสบควาสำเร็จและข้อผิดพลาดต่างๆ

โลโก้ที่ประสบความสำเร็จ
คุณได้รู้จักหลักการในการออกแบบโลโก้แล้ว ตอนนี้คุณสามารถที่จะแบ่งแยกโลโก้ที่ดีและไม่ดีได้แล้ว... โดยเรารู้ว่าโลโก้อื่นๆ ประสบความสำเร็จและทำไมถึงประสบความสำเร็จเรามาดูกันให้ชัดๆ ว่าทำไมโลโก้นั้นๆ ถึงประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น
โลโก้ : NIKE (เป็นโลโก้ที่คลาสสิคมากๆ)
ผู้ออกแบบ : Caroline Davidson ในปี 1971
ในราคาเพียง $35 เท่านั้น แต่เป็นโลโก้ที่มีพลังมาก จดจำได้ง่าย สื่อได้แม้ไม่ได้ใช้สีสัน และสื่อได้แม้ขนาดเล็กๆ มันธรรมดามากๆ ดูรวดเร็วและสื่อถึงปีกของรูปปั้นเทพธิดาแห่งชัยชนะของกรีก
NIKE เป็นธุรกิจเครื่องแต่งกายทางกีฬาที่สมบูรณ์แบบ NIKE เป็นแค่หนึ่งในโลโก้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย ลองคิดถึงโลโก้ที่คุณรู้จักแล้วลองคิดดูว่าทำไม โลโก้นั้นๆ ถึงประสบความสำเร็จ

แหล่งรวบรวมโลโก้ที่มีคุณภาพที่ผมแนะนำ คือ

logopond.com

หรือลองไปหาหนังสือ LOGO ตามร้านหนังสือหรือห้องสมุดดูครับ

โลโก้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
เราสามารถเรียนรู้ได้จากโลโก้ที่ผิดพลาดได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นโลโก้ตรงกลางของด้านบนเป็นโลโก้ที่ไม่ดีมากๆ ลองดูเอาครับ... เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดครับ หรือใช้การออกแบบทั่วๆไป เหมือนโลโก้ทางด้านขวาครับ

4. เริ่มต้นกระบวนการออกแบบโลโก้ของตัวเอง

คุณได้รู้จักความหมายของโลโก้ หลักการ และสิ่งที่ทำให้โลโก้ประสบความสำเร็จแล้ว ตอนนี้เราสามารถเริ่มกระบวนการออกแบบได้แล้ว โดยขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดใน 5 ขั้นตอนนี้ครับ โดยสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนย่อยๆ ตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนครับ โดยขอแนะนำกระบวนการออกแบบโลโก้ ที่เป็นหัวใจของ Designer มืออาชีพครับ

justcreativedesign.com/...cess-of-top-graphic-designers/

* สรุปการออกแบบให้เข้าใจตรงกัน
* ค้นคว้าและรวมหัวกันออกไอเดีย
* ร่างภาพโลโก้
* สร้างต้นแบบ(ดูขั้นตอนที่ 5)
* ส่งไปให้ผู้ว่าจ้างพิจารณา
* ปรับปรุงจนเสร็จตามความต้องการ
* ส่งไฟล์ให้ผู้ว่าจ้างและให้บริการหลังการขาย

5. เรียนรู้การใช้งานโปรแกรมและเสร็จสิ้นการทำโลโก้

ก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการออกแบบ ให้จำไว้ว่าคุณไม่สามารถออกแบบได้ดีจากการทำในคอมพิวเตอร์ แนะนำให้คุณรวมหัวกับออกแบบลงในกระดาษก่อน แล้วสแกนออกมาเป็นไฟล์ดิจิตอลเพื่อจัดเก็บแล้วส่งไฟล์รวมถึงแนวคิดในการออก แบบโลโก้ให้ผู้ว่าจ้างคุณ เมื่อเป็นที่พอใจแล้วค่อยเริ่มใช้โปรแกรมทำให้เสร็จสมบูรณ์จะช่วยประหยัด เวลาได้มากครับ

ที่มา : mr.poo


ใครบ้างไม่อยากประสบความ สำเร็จ? ถามแบบนี้อาจฟังดูแปลก ถึงอย่างนั้นคนที่คุณรู้จักส่วนใหญ่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จกับเขาสักที ได้แต่เฝ้าฝันถึง พูดถึง แต่ไม่เคยได้รับความสำเร็จเลย ซึ่งก็น่าเสียดาย

ทำไม เป็นเช่นนั้น? เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความสำเร็จนั่นเอง มันไม่ใช่ล็อตเตอรี่ ไม่ใช่ว่าคุณจะแวะร้านสะดวกซื้อขากลับบ้าน ซื้อสลากสักใบ แล้วรอให้ความสำเร็จมาหล่นทับได้ อีกทั้งมันไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะได้เจอยามเมื่อชีวิตสุกงอมจนถึงระดับหนึ่ง ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่อยู่ปลายทาง แต่เป็นสิ่งประจำวันนี่แหละ ทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จอันแท้จริงได้ก็คือ สร้างมันทีละวัน

ความจริงเรื่องความสำเร็จ

ความสำเร็จนั้นใช่ว่าคุณต้องมีโชคหรือเงินทอง แต่คุณพึงรู้ว่า

* แต่ละวันคุณทำอะไร คุณก็เป็นอย่างนั้น
* คุณสร้างนิสัยขึ้นก่อน แล้วนิสัยก็สร้างตัวคุณ
* การสร้างนิสัยแห่งความสำเร็จนั้นง่ายพอๆ กับสร้างนิสัยแห่งความล้มเหลว

ทุกๆ วันที่มีชีวิตอยู่ คุณกำลังอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลง จะดีขึ้นหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับว่าคุณได้สร้างอะไรให้แก่ตัวเองบ้าง ผมขอแนะวิธีบางอย่าง ที่จะสร้างความสำเร็จให้แก่ตัวคุณ

เจ็ดก้าวสู่ความสำเร็จ

1. จงถือเป็นหน้าที่ที่จะเติบโตขึ้นทุกวัน คนเราทำข้อผิดพลาดใหญ่หลวงอย่างหนึ่งก็คือ พุ่งเป้าผิด ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการได้มา การบรรลุถึง หรือการก้าวไปข้างหน้า แต่เกิดจากผลของการเติบโตเท่านั้น ถ้าคุณตั้งเป้าว่าจะเติบโตขึ้นทีละนิดทุกวัน ไม่นานคุณก็จะเริ่มเห็นผลชัดเจนในชีวิต
อย่างที่ โรเบิร์ต บราวนิง กวีชาวอังกฤษกล่าวว่า “อยู่ในโลกไปไย หากไม่ใช่เพื่อเติบโต?”

2. ให้ความสำคัญแก่กระบวนการยิ่งกว่าผล ผลชัดเจนในชีวิตนั้นเป็นเครื่องช่วยตัดสินใจที่ดี แต่กระบวนการเปลี่ยนแปลงและเติบโตต่างหากที่จะยืนยง ถ้าคุณอยากก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง ก็จงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

3. อย่ารอคอยแรงดลใจ เจอร์รีย์ เวสต์ ยอดนักเบสบอลกล่าวว่า “ชีวิตคุณคงไม่ไปไหน หากลงมือทำงานเฉพาะแต่ในวันที่คุณรู้สึกดี” ผู้ที่ก้าวไปได้ไกลก็เพราะเขาหมั่นเตือนตัวเองทุกวัน ทุ่มเทให้ชีวิตสุดตัวไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรก็ตาม จะมีความสำเร็จได้ก็ต้องมุ่งมั่นบากบั่น

4. เต็มใจสละความสุขเพื่อสร้างโอกาส หนึ่งในบทเรียนยิ่งใหญ่ที่สุดที่พ่อสอนผมก็คือ หลักของการ จ่ายเดี๋ยวนี้ สุขีวันหน้า เพราะทุกสิ่งในชีวิตนั้น คุณต้องแลกมาด้วยบางสิ่งบางอย่าง จะเลือกจ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม หรือจ่ายหลังสุดก็ต้องจ่ายทั้งนั้น ถ้าคุณจ่ายแต่แรก คุณก็จะมีสิทธิ์รับผลตอบแทนที่ยิ่งกว่าในภายหลัง แถมผลนั้นยังหอมหวานกว่าด้วย

5. ฝันให้ใหญ่ การฝันเรื่องเล็กๆ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า โรเบิร์ต เจ. ครีเกล กับ หลุยส์ แพตเลอร์ ผู้ เขียนหนังสือ ถ้ามันไม่แตก ก็ทุบมันเลย (If It Ain’t Broke, Break It) ย้ำว่า “เราบอกไม่ได้หรอกว่าขีดจำกัดของคนเราอยู่ตรงไหน การทดสอบ นาฬิกาจับเวลา และเส้นชัยทั้งหลายในโลกนี้ไม่อาจชี้วัดศักยภาพของมนุษย์ได้ หากใครกำลังสานฝันให้เป็นจริง คนคนนั้นก็ก้าวพ้นสิ่งที่ดูจะเป็นขีดจำกีด ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเรานั้นไม่มีขีดจำกัด และยังไม่ปลดปล่อยออกมาเป็นส่วนใหญ่ หากคุณคิดถึงขีดจำกัด ก็เท่ากับคุณสร้างขีดจำกัดขึ้นมาแล้ว”

6. หัดจัดลำดับความสำคัญ สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จทุกคนมีเหมือนกันก็คือ ต่างเชี่ยวชาญเรื่องการจัดเวลา ก่อนอื่นเขาจะจัดระเบียบตัวเองเป็นอันดับแรก เฮนรี่ ไคเซอร์ ผู้ก่อตั้งไคเซอร์อะลูมิเนียม และศูนย์สุขภาพไคเซอร์เพอมาเนนเต กล่าวไว้ว่า “ทุกนาทีที่ใช้วางแผน จะช่วยลดเวลาให้คุณเป็นสองเท่า ยามลงมือทำ” คุณเรียกเวลาที่สูญเสียไปกลับมาไม่ได้ ฉะนั้นจงใช้เวลาทุกขณะให้คุ้ม

7. เลิกเพื่อเลื่อนระดับ ไม่มีสิ่งมีคุณค่าใดที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรบางอย่างไป ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยช่วงเวลาสำคัญ ที่คุณจะมีโอกาสแลกสิ่งมีค่าบางอย่างเพื่อให้ได้อีกสิ่งหนึ่ง จงตั้งใจมองหาช่วงเวลาที่ว่านั้น และให้แน่ใจว่าทุกครั้งคุณแลกไปเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า ไม่ใช่น้อยกว่า

ถ้าคุณทุ่มเทตั้งใจทำเจ็ดก้าวข้างต้นนี้ คุณจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ก็จะประสบความสำเร็จ การเติบโตของคุณอาจไม่ปรากฏให้คนอื่นเห็นอย่างเด่นชัดในทันที แต่ คุณ จะแลเห็นความก้าวหน้าของตนเองแทบจะในทันทีทันใด และแม้คนอื่นจะยอมรับช้าไปบ้างก็อย่าท้อใจ ให้พยายามต่อไป คุณจะประสบความสำเร็จในที่สุด

ขณะ ที่คุณก้าวรุดหน้าไปในแต่ละวันนั้น จงใช้หนังสือเล่มนี้เพื่อสร้างเสริมทัศนคติและดุลพินิจของคุณ เปิดอ่านครั้งเดียวหรือสองครั้งให้จบ แล้วเก็บไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ในรถ หรือในกระเป๋าทำงาน เมื่อมีเวลาก็พลิกอ่านเพื่อทบทวนว่า การประสบความสำเร็จนั้นหมายถึงอะไร

นี่จะเป็นช่วงก้าวย่างอันเหลือ เชื่อ! บางครั้งคุณจะพบกับความตื่นเต้น และบางครั้งความมีวินัยเท่านั้นที่จะทำให้คุณยืนหยัดไปจนตลอดรอดฝั่งได้ แต่จงจำไว้เสมอว่า ความสำเร็จกำลังรอคอยให้คุณเปิดฉากก่อน มาเริ่มต้นกันเถอะ

ที่มา : จอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์


1. Search Engine Submission (SES)
ถือเป็นสิ่งแรกเลยนะครับหลังจากที่เว็บไซต์ของเราเสร็จสมบูรณ์ พร้อมที่จะโลดแล่นอยู่ในโลก Internet การทำการ submit เพื่อให้ Search Engines ต่างๆรู้จักกับเว็บไซต์ของเรา สำหรับบรรดา Search Engines หลักๆก็คือ Google, Msn, Yahoo, และ Search Engines อื่นๆเช่น โดยเฉพาะเจ้าพ่อแห่งวงการ อย่าง Google อย่าลืมที่จะ Submit นะครับ ซึ่งหลังจาก Submit ที่ google แล้ว เว็บของคุณอาจจะติดเจ้า Sandbox ก่อน (เป็น algorithm ชนิดหนึ่งที่ทาง Google สร้างขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการ Spam ครับ) ข้อดีของการ ทำ SES ก็คือท่าเว็บเราอยู่ในระบบ รับรองได้เลยว่ามีแต่ได้กับได้ครับ

2. Major Directory Submission
พวก Web Directory ก็มีมากมายหลายแบบหลายชนิด Directory ยอดนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจที่สุดก็คงไม่พ้น พี่ DMOZ ซึ่งไม่รู้เป็นอะไร Submit ง่าย แต่อยู่ในระบบยาก แต่อย่าท้อครับ พยายามทำให้เว็บของคุณอยู่ในระบบ DMOZ ให้ได้ เพราะ เจ้าพ่อ SE อย่าง Google ก็ใช้ฐาณข้อมูลของทาง DMOZ ด้วย เหตุผลก็คือ พี่ DMOZ เขาเป็น Human Edit Directory หรือใช้แรงงานคนในการตรวจสอบนั่นเอง ซึ่งก็คือ Google Directory ส่วนอีก Directory ยอดนิยมของคนมีตังก็คือ Yahoo Web Directory ครับ แต่การที่เราจะเพิ่มชื่อเข้าไปในระบบจะมีค่าใช้จ่ายด้วย แต่เขาก็ไม่รับรองนะครับว่าจะผ่านการตรวจสอบ 100% แต่เท่าตรวจสอบมา เว็บไซต์ที่มี อยู่ในระบบของ DMOZ และ Yahoo Web Directory มักอยู่ในตำแหน่งที่ดีใน SERP (Search Engine Result Page)

3. Paid & Free Directories Submission
ของฟรีไม่มีในโลก อาจใช้ไม่ได้กับหัวข้อนี้ ผมจะบอกว่ายังมี Directories มากมายที่ให้เราได้ Submit Free และแบบเสียเงิน ซึ่งสามารถที่จะแยกออกตามหัวข้อต่างๆดังนี้

Regular Link ฟรีไม่ ชัวร์ว่าจะได้อยู่ในระบบไหม
Regular Link with Reciprocal อันก็ฟรีแต่ต้องลิงค์กลับให้เขาด้วย แต่มีแนวโน้มจะได้อยู่ในระบบสูง!
Featured Link ได้แน่นอนครับ เร็ว และได้อยู่ในอันดับต้นๆเลย แต่เสียเงิน!

พูดกันตรงๆเลยว่า พวก Directories เหล่านี้สามารถที่จะสร้าง Backlinks มาให้กับเว็บเรามากแค่ไหน ผมก็ขอตอบในส่วนของผมว่า หากเว็บเพจ ใน Directory มีค่า PR ซึ่งก็จะส่งผลดีให้กับเราอยู่แล้วยิ่งเป็นของฟรีแล้วยิ่งคุ้มครับ แต่การที่เราจะได้อยู่ในหน้าแรกๆในหัวข้อเช่น Travel ได้นั้นก็ยากพอสมควรครับ ขอให้เรามีความอดทนในการ Submit นะครับ( ตอนนี้ผมเองก็ทำทุกวัน เฮ้อ สู้ๆ)

4. Signature ลายเซ็นพิฆาต
หลายๆคนคงรู้จักทิปนี้แน่นอน(โดยเฉพาะตัวผมเองชอบมาก) ขอให้เป็นลายเซ็นที่ไม่เป็นในลักษณะการ Spam หรือขายโฆษณานะครับ (อาจโดนแบนได้จากเว็บบอร์ดนั้นๆ) เอาแบบเนียนและสวยงามครับ ผมจะบอกถึงผลดีที่เราได้รับตรงๆก็คือ Traffic จากจำนวนผู้คนที่จะเข้ามาในเว็บของส่วนผลพลอยได้แบบดับเบิ้ล ก็คือหากเว็บบอร์ดนั้นๆมีเนื้อหาสาระในหมวดเดียวกับเรา ละมีค่า PR ด้วย รับรองได้เลยว่าจะเป็น One way Link ที่มีคุณภาพคับแก้วแน่นอน

5. Link Exchange แลกลิงค์กระจาย
หัวข้อนี้ไม่มีอะไรมากครับ แลกลิงค์อย่างเดียวครับ ผมขอแนะนำให้เพื่อนๆสร้างหน้าแลกลิงค์มาโดยเฉพาะเลยนะครับ เช่น Link.html เป็นต้น เพราะว่าลิงค์ที่เราจะทำกลับไปให้ Partner ของเราจะได้ไม่ต้องทำจากหน้า Home หรือ index ของเราครับ ยังมีเว็บไซต์เช่น linkmetro.com Linkmarket.net ให้บริการโปรแกรมแลกลิงค์ ด้วยซึ่งก็มีประโยชน์กับเราตรงๆเลยครับ

6. BackLink for Sell ถึงเวลาต้องซื้อลิงค์
มีเว็บไซต์ทุนหนามากมาย ที่ต้องการให้เว็บไซต์ของตัวเองได้อยู่หน้าแรก อันดับแรกๆใน SERP ใน Keyword นั้นๆ การซื้อ Oneway Link จากเว็บไซต์ที่มีค่า PR สูงๆ ก็เป็นปัจจัยหลักๆในการสร้าง Link Popularity ครับ แต่หากเราจำเป็นต้องทำ ผมขอบอกเลยว่าทำให้เนียนนะครับ ผมขอยกตัวอย่างการซื้อ Oneway links ที่มีคุณภาพไม่ใช่ PR สูงอย่างเดียวและอย่าลืมดูว่าเนื้อหาต้องมีความ สัมพันธ์ กับเว็บไซต์ของเราด้วย โปรดอย่า!ซื้อลิงค์จำพวก 50$ for 10,000 oneway links เป็นต้น ตอนนี้เราคงต้องกลับมาถามตัวเองดูครับ ว่าถึงเวลาที่ต้องเสียเงินหรือยัง (ผมทุนน้อยชอบของฟรี)

7. Content is Everything เนื้อหาดี สาระดี ชีวิตก็ดีขึ้น
พวกเราคงเคยได้อ่าน Content is the King ใช่แล้วครับ ถ้าเว็บไซต์ของเราเนื้อหาดีมีข่าวสารน่าติดตาม
ข้อมมูลที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม รับรองว่ารุ่งครับ ตัวอย่างง่ายๆก็คือหากเว็บของคุณเขียนบทความเกี่ยวกับ
Google Adsense ซึ่งเป็นบทความที่มีให้ประโยชน์กับผู้อ่านมากๆ อาจจะมีเว็บไซต์อื่นนำบทความของท่านไป ลงในเว็บของเขาและทำ ลิงค์กลับมาที่เว็บเจ้าของบทความซึ่งก็คือเว็บคุณ สิ่งที่คุณได้รับ Oneway Link ชื่อเสียง(สำคัญมาก) ไม่แปลกเลยที่หลายๆคน เขียนบทความและ Submit ไปที่ Articleห Directory (หัวข้อต่อไปครับ) อย่าลืมครับว่าไม่ใช่แค่ บทความยังมีสิ่งๆอื่นมากมากมายที่สามารถสร้าง Backlinks กัลมาได้อีกครับ

8. Articles Submission บทความ เสริมสร้างบารมี
หัวข้อภาษาไทยอาจจะดูอลังการ (นิดนึง) แต่ของอย่างนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่เชื่อแน่ๆ บทความดีๆ บางทีสามารถที่จะทำให้จำนวนผู้เยี่ยมชมสู่เว็บคุณมีมากมายถล่มถลายจน Bandwidth –v’คุณหมดได้ครับ (ระวังไว้จะเจอกับตัว) แต่ก็อย่างว่าครับ มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของบทความและคุณค่าที่มีให้กับผู้อ่านและ เว็บไซต์ที่ดึงไปลงในเว็บเขาครับ เพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า พวก Free Articles เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมีเยอะครับ เช่น www.digg.com

9. PPC Pay Per Click คลิกแล้วจ่าย(ได้คุ้มเสีย)
เจ้า PPC หรือ Pay Per Click เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ใน SEM (บทความแรกเลยนะครับที่ผมเขียน) ข้อดีของมันก็คือเราสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ที่เราต้องการให้เข้าชมเว็บของเราครับ จุดสำคัญจริงๆแล้วไม่ได้อยู่ที่จะนำคนเข้ามาตามคลิกที่เกิดขึ้นครับ แต่อยู่ที่ทำยังไงจะให้คนที่เข้ามา กลับเข้ามาอีกเรื่อยๆครับ(ย้อนไปที่หัวข้อ Content is Everything) หากเราต้องมาเสียเงินเรื่อยๆแต่สิ่งที่ตอบกลับมาคงไม่มีอะไรเลย หากมีแต่ลูกค้าหน้าใหม่ๆ เพราะเราคงไม่โปรโมทเว็บไซต์ของเราทั้งปีแน่ๆ สำหรับ PPC ก็มีหลายเจ้าที่ให้บริการอยู่นะครับ หลักๆก็ Google Adwords, Yahoo Sponsored Search, Overture อื่นๆอีกมากมายครับ

10. Email Marketing โปรโมต เว็บผ่านอีเมลย์
อันนี้เป็นวิธีเก่าเอามาทำใหม่ อย่าลืมเติมน้ำจิ้มและอุ่นก่อนทานนะครับ จริงๆแล้วเป็นวิธีที่ได้ผลพอสมควรถ้าให้ดีควรทำแบบที่ไม่เข้า ข่าย Spam นะครับ เช่นเมลย์ไปแนะนำเว็บไซต์ใหม่ที่เราทำกับ Contact List เพื่อนๆหรือคนรู้จักของเราเท่านั้นครับ ไม่ใช่เชิงพานิชย์ขายสินค้านะครับ สำคัญที่สุดก็คือ เว็บไซต์ที่ติด Adsense โปรดระวังอาจโดนแบนได้นะครับ แนะว่าไม่น่าใช้ถึงไม่น่าใช้ที่สุดครับ

ที่มา : มาร์เก็ตติ้งไบท์ดอทคอม


Google Trends เมื่อเทรนสินค้าดีย่อมไม่มีตกยุค ตั้งชื่อเรื่องซะหรูหราเลยทีเดียวสำหรับบทความวันนี้ จริงๆ แล้วก็เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ตลาดให้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าสินค้าของ Amazon จะสามารถขายได้ง่ายๆ ก็ตามทีแต่การศึกษาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ช่วยให้เราสามารถประยุกต์ใช้กับการสร้างรายได้กับที่อื่นๆ ได้เช่นกันครับ

คำว่า Trends ที่ผมจะกล่าวถึงในวันนี้นั้นก็คือเทรนของสินค้า หรือพูดง่ายๆ ก็คือสินค้าที่มีความนิยมอย่างมากในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง (ปกติไม่ได้เสมอไปตลอดทั้งปีหนะครับ) ซึ่งเราสามารถนำเอาประวัติต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อทำตลาดได้ หรือวางแผนสร้างตลาดได้นั่นเองครับ โดยเฉพาะการสร้างรายได้ของเรานั้นได้เน้นหนักไปที่ SEO ซึ่งเป็นการอาศัยเนื้อหาและข้อมูลต่างๆ เพื่อทำอันดับและทำตลาดให้กับตนเอง ให้พยายามคิดว่า ?แทรฟฟิคที่ฟรีๆ ก็มีสิทธิ์ทำเงินได้? อันนี้ท่องให้ขึ้นใจครับเพื่อจะได้มีพลังในการขับเคลื่อน การทำงานของเรานั่นไงหละครับ

เอาหละครับในเมื่อผมได้นำเครื่องมือตัวนี้มาแนะนำ ก็ต้องสอนการใช้งานเบื้องต้นกันหละครับเพื่อเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ยังใช้ไม่เป็นหรือไม่เคยได้ใช้งาน สามารถที่จะนำไปใช้งานในได้นั่นเอง สำหรับการใช้งาน Google Trends นั้นไม่ได้ยุ่งยากหรือ ลำบากมากมายอะไรนักหรอกครับ เพราะว่า Google ได้ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมือนๆ กับการใช้งาน Search ของ Google นั่นแหละครับ แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ จะมีการวิเคราะห์พื้นที่ และปริมาณความนิยมในอดีตให้ด้วยนั่นเองครับ

เอาหละเรามาลองใช้งานกันดูหน่อยว่า เมื่อเราใช้งานแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้างหนะครับ เมื่อที่จะได้รู้ว่าส่วนไหนใช้ทำอะไร และส่วนไหนที่ช่วยให้เรารู้ว่าช่วงนี้เทรนสินค้านี้ดีหรือไม่นั่นเองครับมา เริ่มกันเลยครับ

ก่อนอื่นให้เราเข้าไปที่ google.com/trends หรือ google.com/trends/hottrends กันก่อนครับ

เมื่อเราเข้ามาแล้วก็พิมพ์ชื่อสินค้าตามที่เราต้องการได้ทันทีครับ โดยใช้เครื่องหมาย , เป็นตัวขั้นถ้าเราต้องการเปรียบเทียบกับหลายๆ ยี่ห้อนะครับ แต่เราสามารถใส่ได้ไม่เกิน 6 ชุดคำนะครับดังตัวอย่างผมใช้ของ Canon,Nikon,Sony,Olympus ในส่วนของกล้องถ่ายรูปนั่นเองครับ หลังจากนั้นก็กดที่ Search Trends ได้ทันทีครับแล้วเราจะได้ผลดังภาพด้านล่างนี้ครับ

ผมจะอธิบายให้ทราบกันแบบคร่าวๆ นะครับดังนี้เลยครับคือ

1. คือส่วนที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลให้กับเราครับเป็นกราฟเส้น ซึ่งช่วยให้เรารู้ได้ว่าช่วงไหนสินค้าได้เทรนจะมาแรงสุดและตัวไหนรองลงมา ซึ่งทาง Google Trends นั้นได้แยกสีให้เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูลนั่นเองครับ

2. ประเทศที่มีการค้นหาข้อมูลเหล่านี้ มีการบอกเป็นกราฟแท่งแนวนอน เพื่อให้เราเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นครับว่าสินค้าใดขายดีในประเทศไหนนั่นเอง ครับ

3. เมืองที่สินค้าเหล่านั้นขายได้ดี ซึ่งก็จะเป็นการวิเคราะห์ให้เป็นกราฟแท่งแนวนอนเช่นกันครับ เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ

4. ภาษาที่ใช้ในการค้นหา ก็มีการวิเคราะห์เป็นกราฟให้เราได้อย่างชัดเจน ตรงนี้ก็ทำให้เราทราบได้ครับว่า ถ้าเราจะแนะนำสินค้าตัวไดๆ เราควรใช้ภาษาอะไรในท้องที่ไหนนั่นเองครับ

จะเห็นได้ว่า Google Trends นั้นมีประโยชน์อย่างมากในการวิเคราะห์สินค้า ที่เราจะนำมาขายหรือ นำมาแนะนำผ่านบล็อกของเรา ทั้งนี้ยังช่วยในการเปรียบเทียบความนิยมของสินค้าต่างๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วยเพื่อให้เราสามารถที่จะนำเอาสินค้าที่น่าจะได้รับความ นิยมสูงกว่ามาขายหรือนำสินค้าตัวรองๆ ลงมาเพื่อเป็นตัวเลือกสำรอง หรือลดคู่แข่งได้อีกด้วยครับ

เป็นอย่างไรหละครับคราวนี้หวังว่าเพื่อนๆ พี่ๆ คงพอจะมองออกกันแล้วหนะครับว่า Google Trends นั้นเขาใช้ทำอะไรได้บ้าง และมีประโยชน์กับเราแค่ไหน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ให้มาก ที่สุดครับ

ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จครับ และขอเป็นกำลังใจกับทุกๆ แรงกายแรงใจที่ต่อสู้เพื่อสร้างอนาคตอันดีนี้นะครับจงเชื่อว่า ?คุณทำได้? เสมอๆ ครับแล้วความศัทธาของคุณจะก่อเกิดเป็นความสำเร็จครับสู้ๆ พวกเรา

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


หลายคนโปรโมทเว็บหวังอยากให้ติดอันดับต้น ๆ ใน Google.com แต่ทำไมเวลาโปรโมทจริง ๆ กลับพบว่าไปติดอยู่ใน Yahoo.com หรือ Live.com ซะมากกว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่ากูเกิ้ลมีตัวกรองหลายชั้นมาก สิ่งที่จะทำให้กูเกิ้ลเลือกว่า เว็บนี้สมควรจะติดใน 10 อันดับแรกหรือไม่มาจากความน่าเชื่อถือของเว็บนั้น แล้วเราจะสร้างความน่าเชื่อถือที่ว่าได้อย่างไร เรามาดูกัน

ในมุมมองของวิศวกรกูเกิ้ล แม้จะมีอัลกอริธึมซับซ้อนอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเสมอคือ กูเกิ้ลต้องการแสดงผลการค้นหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ค้น และเว็บที่แสดงนั้นจะต้องไม่เป็นเนื้อหาที่ซ้ำกับเว็บอื่น กูเกิ้ลไม่ต้องการแสดงผลเนื้อหาที่ซ้ำ ๆ กัน (Duplicated Content) จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเว็บคุณจึงควรมีเนื้อหาที่คัดลอกมาจากคนอื่นทั้งดุ้น เพราะถ้ามี 2 หน้าที่เนื้อหาเหมือนกัน กูเกิ้ลจะวัดจากน้ำหนักของตัวโดเมนหลัก และลิ้งค์ที่วิ่งเข้าไปในหน้านั้นจากหน้าอื่น และอายุของเนื้อหา่นั้นโดยนับจากวันที่โดนเก็บเข้ามา (Cache date) ก่อนที่จะตัดสินว่า เนื้อหานั้นสมควรอยู่อันดับไหน

เรามาดู 3 วิธีการโปรโมทเว็บเบื้องต้นใน Google ที่ถูกต้องกันนะครับ

1. ลิ้งค์เน้นที่คุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ - อย่างที่เคยบอกไว้ในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่า การทำลิ้งค์นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณภาพและความถี่ในการเพิ่มลิ้งค์อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งทำได้ด้วยการเพิ่มเนื้อหาที่มีคุณภาพเข้าไป กูเกิ้ลนั้นเป็นระบบค้นหาเว็บที่มีการกรองลิ้งค์ละเอียดที่สุด การที่มีลิ้งค์คุณภาพต่ำจำนวนมาก ๆ หรือมีลิ้งค์จำนวนมากเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในวันเดียวนั้น ส่วนใหญ่ลิ้งค์พวกนั้นจะถูกตีค่าเป็นศูนย์ ไม่นับเป็นโหวตให้กับเว็บคุณ และบางครั้งการมีลิ้งค์มาจากเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาก ๆ อาจทำให้อันดับเว็บคุณร่วงได้เช่นกัน

2. ลิ้งค์ควรมาจากหลายที่ - ระหว่างลิ้งค์จำนวน 10 ลิ้งค์มาจากโดเมนเดียวกัน กับ 10 ลิ้งค์มาจาก 10 โดเมน โดเมนละ 1 ลิ้งค์นั้น ส่งผลแตกต่างชัดเจน เพราะการมีลิ้งค์จำนวนมากมาจากเว็บนึงไปยังอีกเว็บนึงนั้น ดูไม่ธรรมชาติ คิดในมุมของวิศวกรกูเกิ้ล ถ้าคุณเห็นเว็บเอ ลิ้งค์ไปยังเว็บบีเป็นสิบ ๆ อัน คุณจะให้น้ำหนักกับลิ้งค์เหล่านั้นหรือไม่

3. เนื้อหาที่ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ - กูเกิ้ลไม่ได้ให้น้ำหนักกับเนื้อหาเพียงหน้าเดียวบนเว็บ แต่จะทำการตรวจสอบเนื้อหาทุก ๆ หน้าเพื่อดูว่า โดเมนนั้นมีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับอะไร และมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหาหรือไม่ ดังนั้นเวลาที่เพิ่มเนื้อหาเข้าไป ควรมีความหลากหลาย ครอบคลุมหลายเรื่อง แต่ให้อยู่ภายใต้ธีมเดิม เช่น คุณทำเว็บเกี่ยวกับสุนัข คุณสามารถมีเนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแมว ช้าง คุณอาจจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้ เช่น รถยนต์ แต่กูเกิ้ลก็จะมองว่าเว็บคุณควรจะติดในคำค้นหาที่เกี่ยวกับสัตว์มากกว่า เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ของโดเมนคุณเป็นแบบนั้น เป็นต้น ในทางกลัีบกัน ถ้าเนื้อหาบนเว็บคุณมีหลากหลายและไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะทำให้เสียเปรียบในเรื่องนี้

ที่มา : คลิกบีเคเคดอทคอม


สำหรับท่านที่มองหาบริษัทรับออกแบบเวบไซต์อยู่ เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้ท่านได้บริษัทรับออกแบบเวบไซต์ที่ดี ทำงานได้ครบถ้วนและตรงตามความต้องการ ในงบประมาณที่เหมาะสมและเวลาที่พอดี

1. ขอดูตัวอย่างงานที่ผ่านมา - หลายท่านอาจจะพบว่าตัวอย่างงานที่บริษัทนำเสนอเป็นตัวอย่างนั้นดูดีอยู่แล้ว แต่เวลาที่พบและคุยงานกันจริง ๆ ก็ยังแนะนำว่าให้ขอดูตัวอย่างงานอื่น ๆ นอกเหนือจากที่แสดงไว้ในเว็บ เพื่อดูว่างานที่ออกแบบแนวอื่นเป็นอย่างไร และงานเหล่านั้นมีเค้าโครงแบบเดียวกับงานที่เคยนำมาแสดงบนหน้าเว็บหรือไม่ เพราะหากไม่มีเลย หรือแย่กว่าที่แสดงบนหน้าเว็บมาก ก็เป็นไปได้ว่า ตัวอย่างเหล่านั้นบริษัทไม่ได้ทำขึ้นมาเองแต่ไปเอาของคนอื่นมาและอ้า่งอิง ว่าเป็นของตัวเอง

2. ทำการทดสอบ - โดยการให้บริษัทลองออกแบบโลโ้ก้หรืองานขนาดเล็ก เพื่อดูว่ามีความรวดเร็วและความสร้างสรรค์ในการทำงานแค่ไหน หากงานเล็กแบบนี้สามารถทำออกมาได้รวดเร็วก็แสดงให้เห็นว่างานใหญ่ก็สามารถทำ ออกมาได้เสร็จตามเวลาเช่นกัน

3. ลองยั่วประสาท - โดยการบอกความต้องการแบบละเอียดยิบ ขอปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อดูว่าเค้าปรับเปลี่ยนงานได้ยืดหยุ่นแค่ไหน ถ้าเค้าสามารถปรับให้ตรงตามที่เราต้องการได้ตลอดก็แสดงว่า พวกเค้ามีความเป็นมืออาชีพ มีความเข้าใจในงานที่ทำและการเขียนโค้ดเป็นอย่างดี

ที่มา : คลิกบีเคเคดอทคอม


เมื่อเราตัดสินใจ ทำเว็บไซต์ ขึ้นมาเว็บหนึ่ง ควรถามตัวเองก่อนว่า จุดประสงค์ในการทำเว็บไซต์นั้น เราต้องการทำเว็บไซต์เพื่ออะไร เช่น ทำเว็บไซต์เพื่อขายสินค้า ทำเว็บไซต์ E-commerce ทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ หรือ ทำเว็บไซต์เพื่อโปรโมต บริษัท องค์กร สถาบัน หน่วยงาน โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น

เมื่อผู้ทำเว็บไซต์ สามารถกำหนดจุดประสงค์ใน การทำเว็บไซต์ ของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ย่อมสามารถสื่อสารให้ ผู้ชมเว็บไซต์ หรือ กลุ่มลูกค้า เข้าใจในเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจนดี ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากการเข้าใจผิด ก็ย่อมจะลดน้อยลง รวมทั้งได้รับการยอมรับนับถือในด้าน ความเป็นมืออาชีพใน การบริหารและการจัดการเว็บไซต์ ซึ่งจะมีผลต่อยอดการซื้อขายสินค้า และ บริการในอนาคตอีกด้วย

ประการต่อมา คือ การจดโดเมนเนม (Domain Name Registration) ซึ่งเป็น website address ที่เป็นเหมือนบ้านเลขที่ของเรา ซึ่งผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าเว็บไซต์ของเราโดยการพิมพ์ website address ของเรา หรือ อาจจะ click ที่ link ที่เขา search เจอใน search engines จาก social network และ link partners จากเว็บไซต์อื่น ๆ เป็นต้น

เทรนด์สำหรับการจดโดเมน ที่ประสบความสำเร็จง่าย ๆ ในตลาดออนไลน์ ได้แก่
- เพื่อง่ายต่อการโปรโมตให้ติด search ง่าย ๆ
- เพื่อง่ายต่อการสร้าง brand name
- เพื่อโปรโมตง่าย และ สร้าง brand name ไปในตัวด้วย

ดังนั้น การตั้งชื่อโดเมนเนม จึงนับเป็นสิ่งสำคัญ และ จำเป็นมากที่เราต้องคำนึงถึงอีกประการหนึ่ง ซึ่งควรคำนึงตามหลักเกณฑ์ ดังนี้:-

-1- Domain Name ไม่ควรยาวจนเกินไป ใช้ตัวอักษรไม่เกิน 60 ตัวอักษร ที่ประกอบด้วย a - z, 0-9 และ เครื่องหมาย - (Dash)

-2- Domain Name ควรมี keywords ที่สื่อความหมายเกี่ยวกับเว็บไซต์ด้วย ซึ่งนับเป็นโดเมนเนม ที่ง่ายต่อการโปรโมตให้ติด search อันดับสูง ๆ

-3- Domain Name ควรมีชื่อบริษัท หรือ หน่วยงานของเราอยู่ด้วย ในกรณีที่เรา ทำเว็บไซต์ เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร และ หน่วยงานของเรา หรือ เพื่อสร้าง Brand Name ให้เป็นที่รู้จักในตลาด

-4- Domain Name ที่ดี ควรสะกดง่าย หลีกเลี่ยงคำไทยที่สะกดยาก เพื่อง่ายต่อการจดจำของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

-5- Domain Name Extension เช่น .com , .net , .co.th , .in.th, .org, .name, .biz , .info เป็นต้น ควรสื่อความหมายถึงธุรกิจ หรือ หน่วยงานของเรามากที่สุด

ผู้เขียนเชื่อว่า หากเราตั้งชื่อ Domain Name ได้ตามหลักเกณฑ์ข้างต้น แล้วย่อมทำให้ชื่อเว็บไซต์ของเรา เป็นที่รู้จักของผู้ใช้งาน และ เป็นมิตรกับ search engines ได้อย่างแน่นอน

เมื่อผ่านขั้นตอนดังกล่าวข้างบนแล้ว การวางโครงสร้างเว็บไซต์ ก็เป็นประเด็นสำคัญที่จะมองข้ามเสียไม่ได้ ควรออกแบบหน้าตาเว็บไซต์เป็นสัดส่วน ดังนี้ :-

หน้า Homepage
ควรทำหน้าหลักของเว็บไซต์เราสะอาด ไม่รกไปด้วย text หรือ มี pop up โฆษณาเด้งขึ้นมารบกวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพราะจะทำให้เขารำคาญและไม่กลับมาเยี่ยมเว็บไซต์ของเราอีกเลย ไม่ควรใส่ไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่มาก ที่จะทำให้เสียเวลาโหลด และ ควรใส่เฉพาะ link สำคัญ ๆ ไว้ที่หน้า Homepage นี้

หน้า About Us
ควรอธิบายเกี่ยวกับ รายละเอียดข้อมูลของเว็บไซต์โดยสรุปว่า เว็บไซต์นี้ มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอะไร ให้บริการด้านใดบ้าง และใครเป็นผู้สร้างเว็บไซต์นี้ เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ เข้าใจจุดประสงค์ของเว็บไซต์มากที่สุด

หน้า Product Page
สร้าง web page นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนแสดงสินค้า ราคา รายละเอียด ส่วนลด คำอธิบายเกี่ยวกับสินค้า และ บริการของเราทั้งหมด อาจจะมีส่วนของ การสั่งซื้อ วิธีการชำระเงิน วิธีการจัดส่งสินค้า เพิ่มมาในส่วนนี้ได้

ส่วน Forum หรือ Webboard
ควรมี Forum หรือ Webboard สำหรับติดต่อพูดคุยกันระหว่าง ผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือ ลูกค้า กับ เจ้าของเว็บไซต์และทีมงาน เพื่อพูดคุยถึงสินค้า และ บริการที่เลือกซื้อไปแล้ว หรือ กำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อ เป็นต้น ส่วนนี้ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ควรเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าคุณกำลังทำการติดต่อสื่อสารออนไลน์ กับ ลูกค้าของคุณอยู่ ควรเน้นให้ข้อมูล และ รีบนำปัญหาของเขามาแก้ไขโดยด่วน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ที่จะสามารถรักษาจำนวนลูกค้าเดิม รวมทั้งเพิ่มลูกค้าใหม่ ที่เข้ามาอ่านเว็บบอร์ดในเว็บไซต์ของเราได้อีกทางหนึ่ง

หน้า FAQs
เป็น web page ที่สร้างมาเพื่อรวบรวมคำถามและคำตอบ ที่มักจะมีการถามบ่อย ๆ เอาไว้ เพื่อชี้แจงข้อสงสัยให้เกิดความกระจ่างในสินค้า หรือ บริการของเรา เป็นการเอาคำถามที่เจอในเว็บบอร์ดของเรามารวมตอบไว้ที่เดียว เพื่อลดการตั้งโพสซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นการเปลืองพื้นที่ web hosting ไปโดยใช่เหตุ และป้องกันการ spam ซึ่งไม่เป็นผลดีในการทำ SEO เลย

หน้า Contact Us
สร้าง web page นี้ขึ้นมา เพื่อแสดงข้อมูลสำหรับการติดต่อเรา ให้กับลูกค้า หรือ ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ดู โดยแสดงรายละเอียดของ สถานที่ตั้ง เบอร์โทรติดต่อ แผนที่ หรือ รายละเอียดอื่นๆ ที่จำเป็น

หน้า Sitemap
ทำ web page ของ Sitemap ขึ้นมาเพื่อรวบรวม links ทุกลิงค์ที่มีอยู่ในเว็บไซต์ของเรา มารวบรวมไว้ที่หน้านี้ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ สามารถเข้าไปส่วนที่เขาต้องการเยี่ยมชม ได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เว็บไซต์ของเรา มีเนื้อหามาก หรือ ประกอบไปด้วยแผนกต่าง ๆ หลายแผนก แต่ไม่ควรมี links ที่หน้านี้เกิน 100 links ในหน้า Sitemap นี้ ถ้ามีมากกว่า 100 links ควรสร้างหน้า Sitemap ย่อยขึ้นมารองรับ links ที่เหลือด้วย

เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่าน คงมองเห็นประโยชน์ของการวางแผน หรือ การเตรียมตัว ก่อนทำเว็บไซต์อย่าง มืออาชีพกันแล้วนะครับ แต่ว่า ยังมีอีกหลากหลายวิธี ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราประสบความสำเร็จได้ ซึ่งผู้เขียนเอง จะพยายามนำมาเขียนในโอกาสต่อไป

ที่มา : คลิกบีเคเคดอทคอม


SEO กับเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
ในปัจจุบัน มีเว็บใหม่ทั่วโลกเกิดขึ้นทุกวินาที
ขณะเดียวกันก็มีเว็บที่ปิดตัวลงไปทุกวินาทีเช่นกัน!!

เว็บที่ประสบความสำเร็จมีไม่ถึง 20%

หลายคนพยายามที่จะปรับปรุงหน้าเว็บให้สวยงาม
ใส่เนื้อหาที่ยอดเยี่ยมลงไป

หรือแม้กระทั่งจ้างโปรแกรมเมอร์แพง ๆ มาใส่ลูกเล่นแปลก ๆ ให้กับหน้าเว็บ

แต่… เว็บก็ยังเงียบเหงาเหมือนเดิม

มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป นั่นคือ
“การได้ทราฟฟิกจากระบบค้นหาชื่อดังเช่น Google, Yahoo ซึ่งมีีจำนวนผู้ใช้นับพันล้านคนต่อวันทั่วโลก”

แล้ว SEO คืออะไร??

SEO หรือ Search Engine Optimization คือส่วนที่จะมาช่วยเติมเต็มความสำเร็จให้กับเว็บของคุณ ด้วยการดึงผู้เข้า้เยี่ยมชมคุณภาพ ในปริมาณมาก มาจากระับบค้นหาชื่อดังต่าง ๆ อาทิ Google.com Yahoo.com และ MSN.com หรือ Live.com เหตุที่ผู้เข้าเยี่ยมชมเหล่านี้มีคุณภาพ เพราะผู้คนเหล่านี้ เข้ามาจากการค้นในคำที่ตรงกับธุรกิจที่คุณอยู่ นั่นหมายความว่า พวกเค้าค้นหาสิ่งที่คุณขาย ในเวลาที่เค้ามีความต้องการซื้อ และเมื่อพวกเค้าเจอเว็บของคุณซึ่งมีสิ่งที่เค้ากำลังต้องการในผลการค้นหา โอกาสที่จะแปลงผู้เข้าเยี่ยมชมเหล่านี้เป็นลูกค้ามีสูงมากกว่าคนธรรมดาที่ เข้าเยี่ยมชมเว็บโดยไม่มีเป้าหมายหรือความต้องการใด ๆ และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนต่อหน่วย สูงกว่าการหว่านโฆษณาตามสื่อใหญ่ ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งไม่สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนเทียบเท่าักับการโฆษณาผ่านระบบ ค้นหา

ตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนค้นหาคำว่า “โรงแรมเชียงใหม่” และเว็บของคุณเป็นเว็บโรงแรมในเชียงใหม่ หากมีคนค้นคำนี้เดือนละ 4-5,000 คน และเว็บคู่แข่งติดในหน้าแรกของผลการค้นหาแทนที่จะเป็นเว็บของคุณ คุณจะสูญเสียโอกาสในการได้ลูกค้าถึง 4-5,000 คนในทันที

โปรโมทเว็บด้วย SEO อย่างไร
1. ลูกค้าติดต่อเข้ามา แจ้งรายละเอียดงาน ที่อยู่เว็บไซต์ (ถ้ามี) และคำที่ต้องการให้ติดในหน้าแรก
2. Wittybuzz จะทำการวิเคราะห์หาคำที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณให้ โดยต้องเป็นทั้งคำที่ตรงเป้าหมาย และมีคนค้น และแจ้งคำที่ควรเล่นและระยะเวลาที่คาดว่าต้องใช้ในการทำกลับไป พร้อมใบเสนอราคา
3. ลูกค้าตกลงเรื่องราคา พร้อมจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ตกลง เป็นงวดแรก
4. Wittybuzz จะทำการโปรโมทเว็บ พร้อมมีรายงานแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะทุกสัปดาห์
5. เว็บติดหน้าแรกในคำที่ตกลงกันไว้ จ่ายเงินตามงวดที่ตกลงกันไว้
6. ดูแลอันดับเว็บหลังติดแล้ว 3 เดือน แต่ระยะเวลารวมกันไม่เกินเวลาที่ตกลงกันไว้ เช่น ทำสัญญาไว้ 1 ปี เว็บติดหน้าแรกในเดือนที่ 10 ทางบริษัทก็จะดูแลอันดับให้จนครบสัญญา 1 ปีหรืออีก 2 เดือน เป็นต้น
7. หากต้องการให้ดูแลอันดับในปีถัดไป ทางบริษัทจะให้เงื่อนไขพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 50%

รับประกันการคืนเงิน 100%

เงื่อนไขการคืนเงิน
1. ทางบริษัทยินดีคืนเงินค่าบริการเต็มจำนวน หาก Keyword ดังกล่าว ไม่ติดอันดับใน 10 อันดับแรก ของ Search Engine
2. การวัดผลการคืนเงินนั้น จะวัดผลเมื่อ อยู่ในเดือนที่ 3 ถ้าหาก Keyword ดังกล่าวขึ้นก่อน 3 เดือนถือว่าเงื่อนไขสิ้นสุด
3. การวัดผล SEO จะยึด Search Engine คือ Google.co.th หรือ Google.com หน้าของประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากในประเทศไทย มีผู้ใช้มากที่สุด
4. หลังจากที่ติดอันดับ Top 15 แล้ว บริษัทจะขอรับประกันอันดับของ Keyword ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 3 เดือน

สนใจติดต่อ 086-306-5011 แจ็ค


คำแนะนำเกี่ยวกับ Landing Page และ Site Quality
Landing Page and Site มี Quality
พ.ศ. 2551 เว็บมาสเตอร์ผู้ตายและเกิดใหม่!? (2008 The Death of Thailand Webmaster)
เว็บไซต์แบบ User Generate Content ง่ายๆ ด้วย Pligg
Submit Social Bookmark
DoFollow(traffic+bot+backlink+pr)
Submit Directory
รับสร้างหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส ด้วยทีมงานมืออาชีพ เหมือนจริงทั้งหมดทั้งปวง!!
ครบเครื่องเรื่องแร่
Internet Marketing คือ อะไร
เครื่องมือและวิธีการในการทำ Internet Marketing แบบง่ายๆ
เหตุผลที่ทำให้เว็บงาม ๆ ต้องตกอันดับ Search Engine
Splash Page ด้วย Flash หรือ ภาพ (Image)
ใช้ Flash ทุกหน้า
อย่าให้ Search Engine มาใกล้ฉัน.....
คำสั่งใน robots.txt เป็นดังนี้
CRM กับซอสพริก
CGM โลกนี้เป็นของคุณ
ประเภทของ CGM
CGM 2
Search Engine Marketing
รู้จักกับคำว่า Nofollow (ภาค 1)
รู้จักกับคำว่า Nofollow (ภาคจบ)
Blue Ocean Strategy (ภาค 1)
Blue Ocean Strategy (ภาค 2)
Blue Ocean Strategy (ภาคจบ)
แตกต่างเพื่ออยู่รอด (ภาค 1)
แตกต่างเพื่ออยู่รอด (ภาคจบ)
จุดประกายแห่ง Brand
ข้อผิดพลาดในการออกแบบ website 10 ประการโดย Jakob Nielsen (ภาค 1)
ข้อผิดพลาดในการออกแบบ website 10 ประการโดย Jakob Nielsen (ภาค 2)
ข้อผิดพลาดในการออกแบบ website 10 ประการโดย Jakob Nielsen (ภาคจบ)
มาตรฐานของปุ่ม Feed
WidgetBucks ขอทาบรัศมี Google Adsense
Viral Marketing คืออะไร
Hi5 คืออะไร
เทคนิค(ไม่)ลับ ในการทำ Viral วีดีโอคลิป
10 เทคนิค การออกแบบ แบนเนอร์ โฆษณา จาก yahoo
หน้าเว็บ ที่ไม่ต้องทำ Search Engine Optimization
โอกาสของ เว็บเล็ก ๆ กับการขาย Ad (ภาค 1)
โอกาสของ เว็บเล็ก ๆ กับการขาย Ad (ภาคจบ)
ทำอย่างไร ให้วงการโฆษณาออนไลน์ของไทย โตขึ้นจาก 0.8% เป็น 2%
Social Network คืออะไร
QR Code คืออะไร
Social Web กลายเป็น สื่อกระแสหลัก
แนวโน้ม และโอกาสของ Digital Marketing ไทยในปี 2552 (ภาค 1)
แนวโน้ม และโอกาสของ Digital Marketing ไทยในปี 2552 (ภาคจบ)
ออนไลน์วีดีโอ ครองใจนักการตลาด ปี 2552
เนื้อหาแบบ Text ยังครองใจผู้ใช้ไปอีกนาน
Email Marketing
Social Media คืออะไร
facebook คืออะไร (ภาค 1)
facebook คืออะไร (ภาค 2)
facebook คืออะไร (ภาคจบ)
ฝ่าด่าน e-mail Spam (ภาค 1)
ฝ่าด่าน e-mail Spam (ภาคจบ)
ทิปง่ายๆเพื่อส่ง email ให้ได้ผลจาก Vertical Response
วันนี้คุณมี Spam Email ใน Inbox เท่าไหร่(Anti-SPAM)
Database Marketing และ Direct Marketing (ภาค 1)
Database Marketing และ Direct Marketing (ภาค 2)
Database Marketing และ Direct Marketing (ภาคจบ)
ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ (ภาค 1)
ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ (ภาค 2)
ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ (ภาค 3)
ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ (ภาค 4)
ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ (ภาคจบ)
Upload Clip ไม่ต้องง้อ youtube
บุกเมืองนอกอย่าลืมเรื่องการออกเสียง Domain Name
สร้างเว็บแบบ Outside-In
is Blackle.com energy-saving ?
Customer Expectation ลูกค้าของคุณคาดหวังอะไรอยู่หรือ
ไร้กรอบ (ภาค 1)
ไร้กรอบ (ภาค 2)
ไร้กรอบ (ภาคจบ)
5 จุดเด่นที่คุณควรหันมาใช้ CSS
มืออาชีพนั้นเป็นฉันใด
Shareability มาตรวัดค่า Viral Marketing (ภาค 1)
Shareability มาตรวัดค่า Viral Marketing (ภาคจบ)
กฎ 23 ข้อ (ภาค 1)
กฎ 23 ข้อ (ภาคจบ)
"Landing Page รู้ใจเขา เราก็รวย" หลักการคิดของผู้เยี่ยมชมที่เราควรรู้อย่างเข้าใจ
ทำเว็บสมัยนี้ แข่งกันที่ใครตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากกว่ากัน (ภาค 1)
ทำเว็บสมัยนี้ แข่งกันที่ใครตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากกว่ากัน (ภาค 2)
ทำเว็บสมัยนี้ แข่งกันที่ใครตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากกว่ากัน (ภาคจบ)
7 เรื่องน่ารู้เมื่อเริ่มใช้สื่อดิจิตอล (ภาค 1)
7 เรื่องน่ารู้เมื่อเริ่มใช้สื่อดิจิตอล (ภาคจบ)
7 เว็บค้นหาที่เก่งกาจกว่ากูเกิล (ภาค 1)
7 เว็บค้นหาที่เก่งกาจกว่ากูเกิล (ภาคจบ)
ตัวเลข Users Demographic ของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลก
เริ่มต้นทำ AOM Associate-O-Matic สำหรับคนที่อยากทำแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
ของดี 50 นาที (ภาค 1)
ของดี 50 นาที (ภาค 2)
ของดี 50 นาที (ภาคจบ)
บริษัทออกแบบเวบไซต์ที่ดีเป็นอย่างไร
รับทำ SEO โปรโมทเว็บมืออาชีพกับ Wittybuzz
ทำอย่างไรให้PR เราสูงขึ้นTraffics มากขึ้นBacklinks มากขึ้น
7 ก้าวสู่ความสำเร็จ
5 ขั้นตอนในการออกแบบโลโก้
Free submit (เกือบ) 300 website ด้วยวิธีง่ายๆ ในเว็บเดียว
ซีอีโอ Google ลาเก้าอี้บอร์ด Apple
ฟรีเครื่องมือทำการตลาดออนไลน์
paypal ธนาคารออนไลน์ ใช้ได้ใน ebay และการธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต
การใช้จ่ายผ่าน internet ทั่วโลก ใครๆก็ทำได้
Mysapce ซื้อควบรวม iLike ซึ่งเป็นสุดยอดสังคมเพลงออนไลน์ขณะนี้
เรื่องของ Link กับ Bing .... โดย โซวบักท้ง
สูตรสำเร็จการทำเงินออนไลน์เบื้องต้นสำหรับมือใหม่
7 เทคนิคในการสร้างเว็บไซต์ให้เป็น Digg Clone
รู้จักการทำงานของระบบ Affiliate Marketing กันหรือยัง?
ทำความรู้จักก่อนที่จะรวยออนไลน์ด้วย Amazon.com
วีดีโอสอนการสร้าง Amazon Affiliate links
การสมัคร CJ.com เพื่อเป็นตัวแทนโฆษณาหรือ Affiliate
สร้าง Chat Room ออนไลน์ติดเว็บไซต์ง่ายๆด้วย TinyChat
10 สุดยอดCMSเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ฟรี( Open Source )
การออกแบบโลโก้ และ การใช้สี
ไม่ต้องใช้ Back Link ทำให้เว็บขึ้น Ranking ง่ายๆ
Conversational marketing คืออะไรนะ?
วิดีโอโฆษณา คนดูเพลิน นักการตลาดก็เพลิน!!
ทำเงินออนไลน์ด้วยการอัพโหลดรูปกับ Shareapic.net
การออกแบบโลโก้ประเภทตัวอักษร
8 สุดยอดวิธีการทำเงินออนไลน์ในยุคดิจิตอล
“Links ลิงค์ ” Links แบบไหนดีที่สุดสำหรับการเพิ่ม Back Links
รู้จักกับ Amazon Associates
การออกแบบโลโก้ ตราสินค้า
ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ดัง ขั้นพื้นฐานด้วยการ submit URL
ความหมาย และการทำ ลิงค์ฟาร์ม....??
ลาก่อน Geocities
ศึกชิงจ้าวการแปลภาษา ระหว่าง Google Translate กับ Bing Translator ใครเจ๋งกว่ากัน?
วิธีปรับแต่ง Pligg ให้รองรับ URL ที่ยาวมากๆ(url ภาษาไทย)


เกมส์ที่ yahoo ไม่มีวันชนะเหนือ google
7 เพชรฆาตร อันดับเว็บในGoogle (ภาค 1)
7 เพชรฆาตร อันดับเว็บในGoogle (ภาค 2)
7 เพชรฆาตร อันดับเว็บในGoogle (ภาค 3) จบซะที
Google Sand Box Effect - ปรากฏการณ์สำหรับเว็บน้องใหม่ที่ต้องใจเย็น
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดอยู่ในกล่องทราย
กล่องทราย! ฉันจะออกไปได้อย่างไรเนี่ย
7 กระบวนท่า ทำซะ ! ก่อน Google จะเมิน(เว็บ)คุณ (ภาค 1)
7 กระบวนท่า ทำซะ ! ก่อน Google จะเมิน(เว็บ)คุณ (ภาค 2)
7 กระบวนท่า ทำซะ ! ก่อน Google จะเมิน(เว็บ)คุณ (ภาคจบ)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 1)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 2)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 3)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาคจบ)
Google Adsense คืออะไร
วิธีป้องกันไม่ให้ถูกตัดแอคเค้าท์ Google Adsense
Google ครองใจ ผู้ใช้เสิร์ชเอนจิ้น ในไทย
ขึ้นเช็ค Adsense 15 นาทีรับเงินเลย
นโยบายของ Adsense ที่ควรปฏิบัติ (ภาค 1)
นโยบายของ Adsense ที่ควรปฏิบัติ (ภาค 2)
นโยบายของ Adsense ที่ควรปฏิบัติ (ภาคจบ)
3 วิธีโปรโมทเว็บให้ได้ดีใน Google
Google Trends หาเทรนสินค้าดีดีไม่มีตกยุค
วิธีการสมัคร google adsense ให้ผ่าน
กฏข้อห้ามในการทำ Google Adsense
Adsense ประกาศปรับเปลี่ยนระบบโฆษณาใหม่
Google เตรียมปล่อย Microblogging Search Engine
5 วิธีในการปรับปรุง รายรับ AdSense ของคุณ
เคยสงสัยป่ะ ทำไมเราเข้า Google ได้เร็วจัง
ติดตั้งโปรแกรมแปลภาษาฟรีจาก Google Translate
เคล็ดลับการใช้ Google Translate (แปลภาษา) ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด



วันนี้ทำเมนูเกี่ยวกับ blog ให้ครับ

What is a blog?
Blog คืออะไร (ภาค 1)
Blog คืออะไร (ภาคจบ)
รายชื่อ Blog ฟรี
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 1)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 2)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 3)
Blog ที่เนื้อหาเหมือนเรา !! คู่แข่ง หรือ พันธมิตร
การสร้าง Blog Brand (ภาค 1)
การสร้าง Blog Brand (ภาค 2)
การสร้าง Blog Brand (ภาคจบ)
โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาค 1)
โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาคจบ)
Blog Marketing Design (ภาค 1)
Blog Marketing Design (ภาคจบ)
Blog Branding and Blog Marketing (ภาค 1)
Blog Branding and Blog Marketing (ภาคจบ)
Blog มีประโยชน์ กับธุรกิจอย่างไร
Case Study : Up Your Budget Blog (ภาค 1)
Case Study : Up Your Budget Blog (ภาคจบ)
ความหมาย ของคำว่า Blogosphere
คุณเป็น Blogger แบบไหนกันนะ?
อยากมี Blog ต้องทำยังไง? (ภาค 1)
อยากมี Blog ต้องทำยังไง? (ภาคจบ)
Blog ช่องทางใหม่ ในการสื่อสาร กับลูกค้า (ภาค 1)
Blog ช่องทางใหม่ ในการสื่อสาร กับลูกค้า (ภาคจบ)
เทคนิคง่าย ๆ เพื่อการอัพเดท blog ได้บ่อย ๆ
ทิศทางในอนาคต ของวงการ Blog
Blog Anatomy กายวิภาคของ Blog (ภาค 1)
Blog Anatomy กายวิภาคของ Blog (ภาคจบ)
4 วิธีสร้าง content มัดใจผู้อ่าน blog
7 เทคนิค การสร้าง Blog อย่างมืออาชีพ (ภาค 1)
7 เทคนิค การสร้าง Blog อย่างมืออาชีพ (ภาคจบ)
10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้บล็อก (ภาค 1)
10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้บล็อก (ภาคจบ)
วิธีการปรับแต่ง blog ให้คนเข้าถึง ข้อมูลง่ายขึ้น
การทำ blog อย่างยั่งยืน (ภาค 1)
การทำ blog อย่างยั่งยืน (ภาคจบ)
บริษัทยักษ์ใหญ่ เริ่มใช้ blog มากขึ้น
Blog กับยักษ์ใหญ่ทั้ง 10 ของประเทศไทย (ภาค 1)
Blog กับยักษ์ใหญ่ทั้ง 10 ของประเทศไทย (ภาคจบ)
Comment ใน blog น่ากลัวจริงหรือ?
วัดสถิติ blog ด้วย statistic tools (ภาค 1)
วัดสถิติ blog ด้วย statistic tools (ภาคจบ)
Blog แตกต่างจากเว็บไซต์อย่างไร?
เรียนรู้การหาเงิน จากการเขียน Blog
เขียนเนื้อหาแบบไหน คนอ่านจะติดใจ
ทำไม องค์กรธุรกิจ จึงควรทำ Blog
Comment, Trackback, Blogroll ใครแน่กว่ากัน
วิธีทำ blog ที่ประสบความสำเร็จ
เขียนบทความแบบไหนดี : 1 บทความแนวเจาะลึก
เขียนบทความแบบไหนดี : 2 บทความเรื่องฮิตติดกระแส
การกำหนด ทิศทาง ของ Blog
3 ข้อควรจำ เมื่อทำ Blog Marketing
วิธีการตั้งราคา โฆษณาแบนเนอร์ สำหรับ blog
เอาเวลา ตอนไหน ไปเขียน blog ดี
5 ขั้นตอน สร้าง Blog ฟรีที่ Blogger
blog ( บล็อก ) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ภาค 1)
blog ( บล็อก ) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ภาค 2)
blog ( บล็อก ) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ภาคจบ)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... กำเนิดฺblog
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... บล็อกกันทำไม (ภาค 1)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... บล็อกกันทำไม (ภาค 2)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... บล็อกกันทำไม (ภาค 3)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... บล็อกกันทำไม (ภาคจบ)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... จะ webblog หรือ website ดีล่ะนี่
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... ประเภทของบล็อก (ภาค 1)
บล็อกกันนัก ก็มารู้จักกันเล้ยยย... ประเภทของบล็อก (ภาคจบ)
Blog VS Diary: ส่วนผสมหรือความแตกต่าง
อัพเดต Blog ถูกเวลาเพิ่ม Traffic
5 เทคนิคง่ายๆ ในการเขียน Blog ให้ดัง
เสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog (ภาค 1)
เสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog (ภาคจบ)
blog มีส่วนช่วยในการเข้าทำงานในอเมริกา
การโปรโมท Blog ของเราให้โลกรู้จัก?
75 เคล็ดลับ โปรโมท Blog ให้ดัง
จะเริ่มทำเงินจากบล๊อกได้ยังไง?
Bloggers & Blogging ทำบล็อกยังไงให้ได้เงิน
21 เทคนิคในการเขียนบล๊อคให้สำเร็จและเป็นที่นิยม


เผอิญเห็นว่า เนื้อหาเริ่มเยอะแหละ วันนี้คงไม่โพสอะไรแต่จะจัดระเบียบบล็อคซะหน่อย วันนี้จะพยายามรวบรวมเนื้อหาต่าง ๆ เกี่ยวกับ link ต่าง ๆ ภายใน blog ให้ดีขึ้นซะหน่อย

what is seo
SEO คืออะไร
3 กลยุทธ์ในการทำ seo
เทคนิคการทำ google seo เบื้องต้น
Seo Practice - อะไรคือความหมายของคำว่าลิงค์คุณภาพ
เว็บโปรไฟล์ สำคัญอย่างไรต่อ seo
seo สำหรับธุรกิจ sme
SEO กับเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
SEO Solutions เต็มรูปแบบ
ริจะดังต้องรู้จัก SEO
SEO ที่ว่านี้ย่อมาจาก Search Engine Optimization
ขั้นตอนโดยสรุป (ภาค 1)
ขั้นตอนโดยสรุป (ภาคจบ)
SEO คืออะไร ? เทก 2 (ภาค 1)
SEO คืออะไร ? เทก 2 (ภาค 2)
SEO คืออะไร ? เทก 2 (ภาคจบ)
SEO & Marketing Blog (ภาค 1)
SEO & Marketing Blog (ภาค 2)
SEO & Marketing Blog (ภาค 3)
SEO & Marketing Blog (ภาคจบ)
Advertising and SEO (ภาค 1)
Advertising and SEO (ภาค 2)
Advertising and SEO (ภาคจบ)
SEO เพื่อการปกป้องชื่อเสียง บนโลกออนไลน์
เงินเดือนของ SEO ฝรั่ง
เทคนิคพื้นฐาน SEO ในการเพิ่ม Page Rank


ที่นี่อย่างแจ่มเลยละ ใช้เป็นประจำ
adobe.com/support/f.../?ogn=EN_US-gntray_comm_forums << Adobe Forums - Lets Talk about Flash Baby


weblogs.macromedia.com/mxna/SubmitFeed.cfm?init=true << Adobe RSS Feed Submittal - This may be hand reviewed - But if your blog talks about Adobe products, you can get a PR10 Backlink


forums.microsoft.com/MS...rumGroupID=20&SiteID=1 << MSDN Forums - I can&get Vista to Work either


forums.mysql.com/ << MySQL Forums - Debugging is poetry


forums.amd.com/forum/ << AMD Support Forums - I can’t get Vista to work either


softwarecommunity.intel...om/isn/Community/en-us/Forums/ << Intel Software Network Forums - Note Intel has many different dedicated forums on different subjects


forums.cnet.com/ << CNET Forums - Can you fix my PC?


paymentprocessing.cc/ << Payment Processing Forum - Sig Links have PR6 Passed.

อีกอันแล้วกัน

ค้นหา Blog ไว้ Comment ให้ตรงกับ Keyword website เรา

commenthunt.com

ที่มา : nopp


หลังจากนั้นเรากลับไป ทำการเพิ่ม comment และ content ที่เวบเราและของไซต์อื่น ซัก 2-3 comment ไปเข้าห้องน้ำซะ อดมานานละ กลับออกมาเจอ แ่น่ๆ ! 10 ลิ้ง ที่ดีสำหรับเวบคุณ ยินดีด้วยครับ....

**** ทุกครั้งที่สร้างลิ้งจากที่ต่างๆแล้ว อย่าลืมกดลิ้งกลับมาที่เวบเราก่อนนะครับ

ลืมไป ตอนท้ายเขาบอกว่า 5 นาทีวะ หุหุุหุ

อะ ได้เรื่องอย่างไร มาบอกกันมั่งนะครับ ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานก่อนเด้อ

อะแถมๆให้ อัพเดทล่าสุด Tips เล็กๆน้อยๆการทำ SEO

BookMarks

mister-wong.com DOFOLLOW PR7

spurl.net DOFOLLOW PR6

bibsonomy.org DOFOLLOW PR6

backflip.com/login.ihtml DOFOLLOW PR6

linkagogo.com DOFOLLOW PR5

spotback.com DOFOLLOW PR5

buddymarks.com DOFOLLOW PR5

mylinkvault.com DOFOLLOW PR5

myvmarks.com DOFOLLOW PR5

clipclip.org DOFOLLOW PR6

a1-webmarks.com DOFOLLOW PR4

oyax.com DOFOLLOW PR4

pilkster.com DOFOLLOW PR3

ที่มา : nopp

Newer Posts Older Posts Home