A Blogger by Beamcool

บล็อค ที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ การตลาด seo และ วิธีการ หาเงิน บน อินเตอร์เน็ต เทคนิคในการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต ( เราหมายถึงการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต จริง ๆ ที่ไม่ใช่การชวนเข้า mlm แต่อย่างใดครับ) รวมถึง บริการออนไลน์ ออฟไลน์ ต่าง ๆ ในเครือ Wittybuzz ไว้ด้วยกัน ใครที่เยี่ยมชมนี้ด้วย Internet Explorer แนะนำให้ดาวโหลด Firefox มาใช้จะดีกว่าครับ นอกจากลูกเล่นจะมีเยอะกว่า ยังมีเครื่องมือที่สนับสนุน SEO อีกด้วยครับ


ปัจจุบันผมดูแลเว็บไซต์เว็บหนึ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Flash กว่า 90% ของทั้งไซต์ สำหรับปัญหาที่เจอะเจอสำหรับ flash website คือ การ index หรือการเก็บหน้าเว็บของไซต์เข้าสู่ฐานข้อมูลของ Search Engine เพียงไม่กี่หน้า แต่เว็บที่ผมดูแลอยู่ตอนนี้เรียกได้ว่า Search Engine เก็บ หน้าเว็บไปเพียงหน้าเดียวคือ หน้าแรก ทั้ง ๆ ที่เว็บนี้มีมากว่า 5 ปีแล้วทุก version ที่เค้าทำก็เป็น Flash จนคนใน Office ถามกันมาว่าใช้ keyword ที่เกี่ยวกับเว็บของบริษัทก็ไม่เจอเลย

ดังนั้น Search Engine Optimization จึงเป็นคำตอบแรกสำหรับการทำ E-marketing ให้กับเว็บนี้ เพราะตัวแผนหลักในการทำ E-Business ยังไม่เกิด แต่เว็บไซต์ยังต้องดำเนินต่อไป

ผมเริ่มด้วยการทำ Google Sitemap โดยใน Sitemap นั้นจะมีลิ๊งก์ทุก ๆ ลิ๊งก์อยู่ในเว็บนั้นซึ่งผม gen ทั้งแบบ manual และแบบให้ web crawler ไป Crawl เอง รวมแล้วมากกว่า 150 เว็บเพจ แต่ อีกปัญหาของเว็บนี้คือ หน้าย่อยมี parameter หลายตัว ซึ่ง Search Engine ไม่ค่อยเอ็นดูเว็บเพจพวกนี้เท่าไหร่ ผมจึงยัดหน้าเว็บพวกนี้ไว้ใน google sitemap แต่แบ่งออกเป็น 2 ครั้งโดยครั้งแรกเลือกหน้าแรกและหน้าที่มี parameter ผมจะทำ Google sitemap แบบ manual ไปก่อนแล้ว submit ไปที่เว็บ google sitemap ส่วนครั้งหลังให้ตัวโปรแกรม Crawler เข้า Crawl ทั้งไซต์ เพราะผมได้ทำ sitemap ไว้ครั้งแรกแล้วทำให้ตัวโปรแกรมสามารถเข้าเก็บลิ๊งก์ได้เกือบหมดโดยส่วนที่ เพิ่มขึ้นมาก็จะเป็นหน้า html หรือ static page เสียส่วนใหญ่

ผลที่ได้ก่อนและหลังคือ ก่อนที่จะทำการ submit อย่างที่บอกไว้ว่า มันมีอยู่ลิ๊งก์เดียวจริง ๆ คือหน้าแรกและที่สำคัญหน้าแรกนั้น programmer เขาใส่ javascipt เพื่อให้ redirect ไปยังหน้าหลักซึ่งเป็น flash แต่เป็น friendly redirect สิ่งที่ผมเสริมขึ้นมาคือทำให้การ redirect ช้าลงโดยใส่ css (มนต์เสน่ห์ของ css ช่วยให้เรามีอิสระในการ design web ได้มากขึ้นและทำ SEO ได้ดีขึ้นโดยเฉพาะพวก Flash website นึกแล้วอยาก post เรื่อง CSS อีกแล้วซิ :) ) และ keyword แบบเป็น paragraph ตามไวยกรณ์ที่ถูกต้องในทุกภาษาของเว็บนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่ถูกมองว่าเป็น SPAM KEYWORD ซึ่งผมไม่ชอบ spam อยู่แล้ว ดูมันเป็นการทำ SEO แบบ blackhat , ไร้กึ๋นและ low-class ยังไงไม่รู้(แหวะ…) หลังจากร่ายวิทยายุทธอย่างที่ว่าไว้แล้วกลับมาเช็คจำนวนลิ๊งก์ที่ Index โดย Google เห็นได้ชัดว่าจาก 1 กลายเป็น 100 กว่า ๆภายใน 1 อาทิตย์ โอ้ว…. พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก จากนี้ไปก็ไปขั้นที่ว่าจะทำอย่างไรให้เว็บนี้ขึ้นอันดับใน Search Engine เป้าหมาย ที่ไม่ใช่แค่ Google แต่ เป็นSearch Engine ที่ลูกค้าทั้งในและนอกประเทศเป้าหมายใช้ ! ตรงนี้ยากกว่า ที่สำคัญต้องสัมพันธ์กับแผน e-business ที่ผมกำลังร่างกับทีมงาน

นอกเหนือจากวิธีข้างต้นแล้ว ผมทำมากกว่านั้น แต่รับรองว่าไม่ผิดกฏแน่นอน เช็คดู Google Webmaster Guideline แล้ว - This site has no blackhat SEO

สำหรับ yahoo ผมเข้าไปสมัคร yahoo site explorer ซึ่งเพิ่งออกมาเป็น Beta เดาได้ว่าน่าจะมาแข่งกับ google sitemap ถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟังว่า yahoo site explorer เป็นอย่างไร วิธีการก็คล้ายกับ google sitemap นั่นแหล่ะ มีการให้ verify site เช่นเดียวกันแต่ไม่ต้อง submit sitemap อาศัย RSS หรือ Feed ซึ่งถ้าเป็น blog ที่สร้างจาก blogware ในท้องตลาดก็มี feature นี้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น wordpress, movabletype ฯลฯ ส่วนใหญ่ก็มี rss ให้อยู่แล้ว

ฉะนั้น มีเครื่องมือดี ๆ ที่ Search Engine เค้าทำให้เราใช้ก็ใช้ไปเถอะ เราได้ seach engine ก็ได้ แต่ที่สำคัญ อย่าโกง webmaster guideline และ quality guideline เป็นคัมภีร์ที่ช่วยเราได้ดีครับ


7. Hi-5,twitter etc. - เล่นฮิห้า อย่ามัวแต่ดูรูปสาว ๆ

กระแส ของ hi-5 (ไฮไฟว์) เป็นอะไรที่ฮอทมาก ๆ ลูกเด็กเล็กแดงตอนนี้ก็แทบจะมี hi-5 เป็นของตัวเองกันทั้งน๊านนน เรียกได้ว่าใครไม่มี hi-5 ถือว่าตกรถไฟอย่างแน่นอน การโปรโมททาง hi-5 หลักการก็คงคล้าย ๆกับการทำลายเซ็นต์แต่ข้อดีคือ เราสามารถเข้าไปเม้น (Comment ) แสดงความคิดเห็นและฝากเว็บของเราได้ผ่านทางเพื่อน และเพื่อนของเพื่อน ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทในลักษณะเดียวกันนี้อีกเช่น myspace,facebook,twitter เป็นต้น ยังไงก็ลองไปปรับใช้กันดูนะครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ของเขาดีจริง ๆ

8 . Share Download file - แบ่งให้เขาแต่เราขอโปรโมท

วิธีการโปรโมทเว็บอีกอย่างหนึ่งก็คือการแชร์ไฟล์ให้ดาวน์โหลด ไม่ว่าจะเป็นแชร์ โปรแกรม ไฟล์ต่าง ๆ แต่ต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ เช่น เราเอารูป Wallpaper หรือรูปสาว ๆ มาให้ดาวน์โหลด และใส่ url ของเว็บเราในรูปนั้นด้วย ก็จะเป็นการโปรโมทเว็บแบบง่าย ๆ อีกวิธีหนึ่ง ที่ไม่ควรมองข้าม

9. Bittorrent - พลังแห่งการแบ่งปัน

สำหรับเว็บบิทนั้นมีสมาชิกที่ไปดูดเลือดเอ้ย...ดูดไฟล์เป็นจำนวนมากเราอาจจะ พลิกแพลงใช้ช่องทางนี้ในการโปรโมท ผมยกตัวอย่าง เช่น เราทำบล็อกเกี่ยวกับการตกปลา เราก็ทำวีดีโอการตกปลา หรือทริปที่เราไปตกปลา (ฉลาม) แล้วอัพขึ้นให้ดาวน์โหลดได้ครับ และอย่าลืมใส่ url ของเว็บเราด้วยนะครับ หลักการก็คล้าย ๆ กับการโปรโมทแบบใช้ Vedio นั่นแหล่ะครับ

10. Friends to any friends - เพื่อน..ผมรักคุณว่ะ

วิธี สุดท้าย เอามันใกล้ ๆตัวนี่แหล่ะ เมื่อเราทำบล็อกเสร็จก็ ส่งลิงค์ให้เพื่อนซี้เราเลยครับ แล้วบอกมันว่า คุณ add to favorite ด้วยนะ หรือไม่ก็ตั้งเป็น home page ซะเลย (555 เข้าข่ายบังคับ อาจโดนเพื่อนเตะได้) และอย่าลืมบอกด้วยว่ามันคือคนแรกที่ได้รับเกียร์ติให้เข้าชมเว็บนี้ (จริง ๆ ไม่มีคนเข้ามาก่อนอยู่แล้ว ) ถ้าเพื่อนเรามีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เราทำเว็บก็จะเข้าทางเลย และฝากบอกเพื่อนให้แนะนำแบบ mouth to mouth (ปากต่อปาก) ก็จะดีทีเดียว

10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 1)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 2)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 3)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาคจบ)

ที่มา : ทาโป


4. Link Exchange - โปรโมทไม่ลำบาก ฝากป้าย(บอกทาง)ไว้บ้านอื่น

การ แลกลิงค์กี่ปี ๆ ก็ไม่มีตกยุค ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์ (โปรตีน ) หรือเป็น text link ก็ตาม การแลกลิงค์กับเว็บเพื่อนบ้าน ทำให้เราได้รู้จักเพื่อน ๆที่ทำเว็บ ได้ backlink และได้โปรโมทเว็บเราอีกทางด้วย ส่วนการแลกลิงค์ที่ดี ก็คือแลกลิงค์กับเว็บที่มีเนื้อหาใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับเว็บเรานะครับ จะทำให้โอกาสที่ผู้เข้าชมเว็บหนึ่งจะตามมาเว็บเราจากลิงค์นั้นได้ดียิ่งขึ้น

5. Mr.Answer - อับดุลห์เอ้ย...เอ้ยย...ถามอะไรตอบได้....ตอบได้

คนเราไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นมากมาย การที่เราจะโปรโมทบล็อกด้วยวิธีนี้ ก็ทำได้โดยให้เราไปตอบคำถามที่มีคนถามมา แล้วเราก็ลิงค์กลับมาเว็บของเราเช่น yahoo answer หรือจะตอบคำถามในเว็บบอร์ดหรือในบล็อกต่าง ๆ ก็ได้ครับ ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นเราควรตอบคำถามที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บที่เราทำ อยู่ด้วยครับ

6. Vedio Clib - คลิ๊บหลุด (แรง) ฉุดไม่อยู่

สำหรับ การโปรโมทเว็บด้วยวิธีนี้อาจจะต้องมีกล้องวีดีโอหน่อยนะครับ (มือถือบางครั้งถ่ายแล้วไม่คมชัดพอ) หรือถ้าเราจะทำวีดีโอลักษณะ tutorial เราก็สามารถใช้ซอร์ฟแวร์อย่าง Camtasia Studio ได้ครับ จากนั้นเราก็นำวีดีโอนั้นไปเผยแพร่ในเว็บวีดีโอต่าง ๆ เช่น youtube.com ที่สำคัญอย่าลืมใส่ url เว็บไซต์ของเราในวีดีโอนั้นด้วยนะครับ

10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 1)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 2)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 3)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาคจบ)

ที่มา : ทาโป


1. google adword -โปรโมทแบบเร็ว แรง แซงทางโค้ง

เพื่อน ๆที่ทำบล็อกหรือทำ internet marketing คงจะรู้จัก google adword กันเป็นอย่างดีนะครับว่าคืออะไร? และคงรู้ถึงประสิทธิภาพของมันด้วย วิธีแรกที่ผมแนะนำนี้ เหมาะกับมือใหม่ที่มีกะตังค์(ค่อนข้างเหลือเฟือ) นะครับ เพราะการโปรโมทโดย google adword นี้เราจะต้องจ่ายตังค์ให้ google เพื่อที่จะทำให้บล็อกของเราเป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น

2. Social Bookmarking - submit เข้าไว้เว็บจะได้ดัง

กระแส Social Bookmarking ตอนนี้มาแรงมาก ๆ หรืออย่างที่เพื่อน ๆคุ้นหูในคำว่าเว็บดิกนั่้นแหล่ะครับ ทั้งเว็บนอกเว็บไทย PR สูง ๆ กันทั้งนั้น หลังจากที่เราทำบล็อกเสร็จก็เอาบทความไป submit กับเว็บ bookmark ที่ให้บริการอยู่เยอะแยะ แล้วเราก็จะได้ทั้ง Backlink,traffic เข้าเว็บเราอย่างแน่นอน ปล. อย่าไปสแปมนะครับ เดี๋ยวจะโดนแบนได้

3. Power of Signature -โหงวเฮ้งไม่เกี่ยวลายเซ็นต์เพียว ๆ ก็เสียว(seo) ได้

เพื่อน ๆทุกท่านคงจะได้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บบอร์ดหลายๆ แห่งนะครับ แล้วรู้ไม่ว่าการใส่ลายเซ็นต์ในเว็บบอร์ด ลิงค์มายังเว็บเรานั้น เป็นการโปรโมทที่ได้ผลยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ได้ทั้ง backlink และยังได้โปรโมทเว็บให้เพื่อน ๆ ในบอร์ดเดียวกันได้รู้จักอีกด้วย รู้แล้วก็อย่าลืมไปใส่ลายเซ็นต์ในบอร์ดที่เราเป็นสมาชิกอยู่นะครับ

10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 1)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 2)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 3)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาคจบ)

ที่มา : ทาโป


สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน สำหรับวันนี้ผมเขียนบทความ 10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ตั้งชื่อซะเวอร์เลย -*-) สำหรับเพื่อน ๆ ที่ทำบล็อกเสร็จใหม่ ๆ คงจะเจอปัญหาที่ว่า "จะโปรโมทเว็บบล็อกเรายังไงดี?" บางครั้งคำถามนี้ก็ได้รับคำตอบโดยเร็ว แต่บางครั้งเราก็คิดวิธีไม่ออก จนต้องใส่เกลือ 1 กำมือ เติมน้ำอุ่น และทำการปิดผา ทำการดองเว็บ (ที่อุตส่าห์อดหลับอดนอนทำขึ้นมา)...
ผมจะมาแนะนำ 10 วิธีโปรโมท Blog ของเพื่อน ๆ ให้เป็นที่รู้จักและมีคนมาเยี่ยมชมนะครับ

ออก ตัวไว้ก่อนนะครับว่าวิธีที่ผมจะโพสต่อไปนี้ มีทั้งวิธีที่เป็นสากลและวิธีที่ผมได้ลองปฏิบัติและเห็นผล จึงเอามาแนะนำเพิ่มเติมให้ครับ...

ผมไม่ ได้เก่งนะครับ แต่อยากเอามาแชร์บ้าง วิธีนี้เพื่อนหลายๆคนคงจะรู้กันหมดแล้ว ผมก็ขออนุญาตแนะนำเผื่อมือใหม่สุด ๆ จะได้มาพานพบบทความนี้ที่พอจะช่วยได้เล็กน้อยนะครับ

10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 1)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 2)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาค 3)
10 วิธีโปรโมท Blog,Web คุณให้โลกรู้ (ภาคจบ)

ที่มา : ทาโป


การ คำนวณ การคลิก ของ adsense

1. IP ที่มา ถ้ามาจาก ประเทศ นอก เมืองใด.. เช่น US UK จะได้ราคาดีกว่า

2. การกรอง keyword เราควรจะคัดกรอกเอาพวก keyword ราคาถูกออกจากเวป หรือคัดกรอกนำ keyword ที่คาดว่าน่าจะทำเงินได้ โดยเราสามารถนำเครื่องมือติดตั้งไว้ในเวปเพื่อให้เราทราบว่า user เข้าเวปเรามาจาก kedword ใดซึ่งมีบริการอยู่หลายตัวมาก แต่ถ้าเว็บในประเทศ ที่ผมใช้ก็ไม่พ้น stats.in.th

3. การเข้าหา เว็บไซต์ นั้นๆ เช่น เข้าเวปมาจาก Search engine , Social Bookmark หรือ พิมพ์ชื่อโดเมนในช่อง url โดยตรงเลย

4. ผู้เข้าชม เว็บ กดลิงค์ออกไปสู่ เว็บ ภายนอกที่ใดต่อ อย่างไร

5. ระยะเวลาในการดู ads มีมากน้อยเพียงใด

6. การวาง ads ก็มีผลต่อราคาค่าคลิกของเรา เช่นในกรณีที่เราวาง ads ไว้เพียงต่ำแหน่งที่เราคิดว่าดีที่สุดเพียงต่ำแหน่งเดียว วิธีนี้จะช่วยกรอก ads ราคาถูกไปได้อีกทางนึง แต่ใครมันจะไปอดใจไหวใช่ม่ะล่ะ 555

ข้อมูลข้างต้นเกิดจากประสบการณ์มั่วของผมเอง หากมีผู้รู้ท่านใดต้องการแนะนำ ยินดีเสมอน่ะครับ


ใน webmaster guideline ของ google นอกจากจะให้แนวทางในการนำเสนอข้อมูลสำหรับเว็บไซต์สำหรับเว็บมาสเตอร์แล้ว ทาง Google ยังได้ให้ข้อแนะนำในเรื่องของการทำเว็บไซต์อย่างมีคุณภาพและข้อพึงหลีก เลี่ยงในการทำเว็บไซต์อีกด้วย เราลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ว่าด้วยเรื่องแนวทางการทำเว็บอย่างมีคุณภาพเบื้องต้น

* จัด ทำเว็บเพจ/เว็บไซต์เพื่อผู้ใช้ ไม่ใช่เพื่อ Search Engine ห้ามใช้วิธีที่เรียกว่า " Cloaking " โดยเด็ดขาด วิธี Cloaking คือ กลวิธีทางเทคนิคการทำ Cloaking คือการบิดเบือนข้อมูลต่อ Search Engine โดยหน้าเว็บเพจที่แสดงให้ Search Engine เห็น จะแตกต่างจากหน้าเว็บเพจสำหรับผู้ใช้ อย่างในกรณีล่าสุดคือ BMW.de
* หลีกเลี่ยงการใช้วิธีการโกงหรือ ทริกใด ๆ ก็ตามเพื่อเพิ่มอันดับของเว็บของตน วิธีง่ายที่ในการเว็บไซต์ให้ลองถามตนเองว่า "เว็บเพจที่ทำอยู่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้มั้ย ในกรณีที่ ไม่มี Search Engine "
* ห้ามเข้าร่วมกับ เว็บไซต์ที่ทำขึ้นเพื่อ เพื่อผลในการเพิ่ม Pagerank และควรหลีกเลี่ยงการทำลิ๊งก์ไปยังพวกเว็บสแปมเมอร์ หรือเว็บที่ทำขึ้นเพื่อผลทาง SEO เท่านั้น เพราะนั่นอาจจะมีผลต่ออันดับของคุณอันเนื่องมาจากลิ็๊งก์เหล่านั้นนั่นเอง
* ห้าม ใช้โปรแกรมหรือซอฟแวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาิติสำหรับใช้เพื่อการSubmit เว็บไซต์หรือเว็บเพจ หรือ เพื่อตรวจสอบอันดับ เนื่องจากซอฟแวร์ดังกล่าวทำให้เกิดการศุนย์เสียทรัพยากรในการประมวลผลทาง คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังละเมิดเงื่อนไขการให้บริการสืบค้นของ Google ด้วย( Term Of Service ) ตัวอย่างของซอฟแวร์ที่ว่า ได้แก่ WebPosition Gold?

ว่าด้วยเรื่องข้อห้ามในการทำเว็บ

* หลีกเลี่ยงการใช้ Hidden text หรือ hidden Link
* ห้ามใช้วิธี Cloaking หรือ การทำ Redirect ที่ไม่ถูกต้องเพื่อผลทาง SEO
* ห้ามทำการส่งคำค้นหาแบบอัตโนมัติ
* ห้ามด้วยส่งคำสั่งในการค้นหาแบบอัตโนมัติ แทน การค้นหาผ่าน google หรือโค้ดการค้นหา/ซอฟแวร์ที่ได้รับอนุญาติจาก google
* ห้ามทำ เว็บเพจที่มี keyword ไำม่เกี่ยวกับเนื้อหาในเว็บเพจนั้น ๆ เช่นหากคุณทำเว็บเพจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแต่ใช้ keyword ประเภทการปลูกพืช การทำอาหารคน เป็นต้น
* ห้ามสร้างหน้าเว็บ Subdomain หรือ Domain อื่นที่มีเนื้อหาภายในเหมือนกันอย่างชัดเจน
* หลีก เลี่ยงการใช้วิธี "doorway page " ซึ่งเป็นการสร้างหน้าเว็บขึ้นเพื่อ Search Engine เท่านั้น หรือใช้วิธีการที่เรียกว่า " Cookie Cutter " ซึ่งเป็นวิธีการสร้างหน้าเว็บเพจเป็นร้อยๆพันๆหน้าทำการ redirect ไปยังหน้าเว็บที่ต้่องการ(ส่วนใหญ่จะ redirect ไปยังหน้าเว็บเพจที่กำลังทำ SEO อยู่)

นอก เหนือไปจากข้อแนะนำ ข้างต้น จาก Guideline ของ Google ยังแนะนำว่า การทำเว็บเพื่อผู้ใช้ แทนการหาวิธีโกง Search Engine นั้นจะมีโอกาสที่ได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่า อีกทั้งทาง Google จะตรวจสอบวิธีการโกง Search Engine อย่างต่อเนื่อง

ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 1)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 2)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 3)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาคจบ)


ข้อแนะนำด้านเทคนิคจาก google

* google ได้แนะนำว่าในการตรวจสอบเว็บไซต์ว่า Search Engine เก็บเนื้อหาอะไรบ้างในเว็บเพจหนึ่งๆ โดยลองใช้ Text Browser เช่น Lynx ซึ่่งเป็น browser ที่เก็บข้อมูลแบบ Text ของเว็บเพจหน้านั้น ๆ ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งที่ บราวเซอร์ Lynx นั้นเก็บ Text ทังหมดของหนเ้าเว็บเพจนั่น ๆ

* การใช้ Session IDs ในเว็บเพจอาจจะทำให้ Search Engine Bots ไม่สามารถทำ Index หรือประมวลผลและเก็บข้อมูลของเว็บเพจนั้นได้ครบหรือ่ถูกต้อง เพราะทุกครั้งมีการเรียกเว็บเพจที่มีการใช้ Session IDs ก็จะได้ URL ที่ต่างกันออกไปทั้งที่จริงแล้วเป็นเว็บเพจหน้าเดียวกัน

* การ ใช้ server ที่สนับสนุน " If-Modified-Since HTTP header" ทำให้ google รู้ได้ว่า เนื้อหาในเว็บเพจหน้านั้น ๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นับตั้งแต่การเข้ามาเยี่ยมเยือนของ google ครั้งที่แล้ว ซึ่งปัจจุบัน server ส่วนใหญ่สนับสนุนฟังก์ชั่นนี้อยู่แล้ว

* หากต้องการไม่ให้ google bot ไปเก็บข้อมูลเว็บเพจในหน้าใดหรือ directory ใดก็ควรสร้างไฟล์ robots.txt ไว้ด้วย

* หากท่านใช้โปรแกรมสำเร็จรูปหรือระบบ CMS(Content Management System) ต้องแน่ใจก่อนเสียก่อนว่าระบบนั้นยังคงทำให้ Search Engine เข้าไปเก็บหน้าเว็บเพจ(Crawl)ของท่านไำด้

* อย่าใช้พารามิเตอร์ "&id=" ใน URL ของคุณเพราะ google ไม่้ทำการ index หน้านั้นให้

สำหรับ Guideline ที่นำมาลงเป็นข้อแนะนำในการทำเว็บไซต์โดยทั่วไป ใน guideline ของ google ยังมีในส่วนของการทำเว็บไซต์อย่างมีคุณภาพและข้อห้ามที่น่าสนใจไว้ด้วยซึ่งทางเราจะเสนอในตอนหน้าครับ

ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 1)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 2)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 3)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาคจบ)


# สร้างเว็บไซต์หรือเว็บเพจแบบ information-rich หรือ เน้นเนื้อหาจริง ๆ ถูกต้องและชัดเจน ฉะั้นั้นเว็บไซต์ืที่มีลูกเล่นเทคนิคบนเว็บแพรวพราวแต่เนื้อหากระจิดริดคง ไม่ใช่สิ่งที่ google อยากแนะนำนัก
# ก่อนเขียนเนื้อหาหรือคำใดลงบนเว็บเพจ ควรคิดเสียก่อนว่าผู้ใช้จะใช้คำใดบ้างในการค้นหาเว็บ แล้วจึงนำคำนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาบนเว็บเพจ

# พยายามใช้ "ตัวหนังสือ(text)" มาแสดงในส่วนสำคัญของเนื้อหาในเว็บเช่น เนื้อเรื่อง หรือ ชื่อหรือ link แทนการใช้ Image หรือ รูปภาพ เช่นหากหน้าเว็บคุณนำเสนอเรื่องของ " เที่ยวระยอง " คุณก็ควรใช้คำว่า " เที่ยวระยอง " แทนการใช้รูปภาพว่า image เนื่องจาก Google Spider จะไม่เข้าใจเรื้อความใน image นั้น

# ข้อความในแท็ก TITLE และ ALT จะต้องเป็นข้อความที่อ่านแล้วได้ใจความและถูกต้อง TITLE คือเนื้อความที่ปรากฏอยู่บนสุดของบราวเซอร์ที่คุณใช้อยู่นั่นแหละครับสำหรับ หน้านี้คือ "From Google Webmaster Guideline" ส่วน ALT คำอธิบายภาพที่เมื่อเอา mouse ไปวางบนรูปก็จะปรากฏคำอธิบายขึ้นมา่อย่างเช่่น อย่าง Image image เอา mouse มา่ชี้ก็จะแสดงคำว่า "image "

# ตรวจสอบว่ามี link เสียหรือคลิ๊ก link แล้วไม่มี link ที่ว่านั่น รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของไวยกรณ์ใน HTML

# สำหรับ พวกไดนามิกเว็บไซต์อย่างเช่นพวกเว็บไซต์ php, asp, aspx ฯลฯ ซึ่งมีี parameter(URL ที่มีเครื่องหมาย ? )ก็ควรทำให้มีจำนวน parameter น้อย ๆ ไว้เพราะ Search Engine ส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บหน้าเว็บที่มี parameter มากๆได้เท่ากับหน้าที่เป็น Html

# จำนวน link ในเว็บหนึ่งหน้าไม่ควรเกิน 100 links

ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 1)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 2)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 3)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาคจบ)


อ่านข่าวจากฺ Blogของนาย Mutt Cutts วิศวกรด้านซอฟแวร์ของ Google ออกมาเผยรายละเอียดของการแบนผลค้นหาของเว็บไซต์ bmw.de บน Google ในเรื่องการที่เว็บนี้ทำ Cloaking และทำให้การนำเสนอเนื้อหาของหน้าเว็บไม่ตรงกับที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Google เลยนึกถึงบ้านเราที่ทำ Search Spam หรือโกงผลค้นหาบน Search Engine ด้วยวิธีต่าง ๆ นา ๆ จึงอยากเก็บข้อแนะนำที่ Google ได้ประกาศไว้เพื่อเป็นแนวทางในการทำหรือหลีกเลี่ยงที่จะทำสำหรับ webmaster ทั้งหลายที่ทำเว็บ โปรโมทเว็บกันอยู่
ว่าด้วยเรื่องการออกแบบและเนื้อหาบนเว็บ

Google ได้ให้ข้อแนะนำในการออกแบบเว็บไซต์และการนำเสนอเนื้อหาบนเว็บไว้ดังนี้

* ทำเว็บไซต์ของคุณให้มีโครงสร้างและ Text link ที่ชัดเจน และทุกหน้าควรมี link ที่นำไปสู่หน้า Static Page อย่างน้อยหนึ่งหน้า ดังนั้น ใครที่กำลังทำไดนามิกเว็บไซต์คงต้องกลับมามองเพจเพจที่เป็น Static webpage ดูบ้างครับ

* ทำ sitemap ที่ประกอบไปด้วย link ที่นำไปสู่หน้าหลักสำคัญของเว็บไซต์ โดย site map นั้นควรมี link ไม่เกิน 100 link ในหนึ่งหน้า ถ้าเกินก็ควรแบ่งเป็นหลายหน้า

ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 1)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 2)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาค 3)
ข้อแนะนำสำหรับ webmaster โดย google (ภาคจบ)



-----------------------------------------------------
User-agent: * ---> ใส่ชื่อ bot ที่ต้องการ เช่น User-agent: msnbot ก็บอก msn ว่าไม่ต้องมา index เว็บของฉัน แต่ใส่ถ้า * ก็หมายถึงทุก S/E ไม่ต้องมา index
Disallow: / ---> บรรทัดนี้ ใส่ ชื่อ folder หรือ ชื่อ file หรือ File extension ที่ไม่ต้องการให้ถูกเก็บไป index
-----------------------------------------------------
Case Study สำหรับ robots.txt

1. ถ้าไม่ต้องการให้ S/E ทุกยี่ห้อมาเก็บเว็บไซต์ทั้งเว็บไป index ใช้ข้อความข้างล่าง
User-agent: *
Disallow: /
2. ถ้าต้องการให้ S/E เฉพาะบางยี่ห้อมาเก็บเว็บไซต์ไป index ใช้ข้อความข้างล่าง เช่น msn ,google

User-agent: Googlebot
User-agent: msnbot
Disallow: [สังเกตุว่า ไม่มีเครื่องหมายใดหลัง disallow:]

User-agent: *
Disallow: /

หมายเหตุ ---> ในทางกลับกัน ถ้าไม่ต้องการให้ googlebot หรือ MSNbot ก็สลับบรรทัดกันระหว่างบรรทัด * กับ User-agent: Googlebot / User-agent: msnbot
3. ถ้าในกรณีของ ไม่ต้องการให้เก็บ Folder / File หรือ บาง File Extension ก็
User-agent: *
Disallow: /folder
Disallow: /file.extension อาทิ disallow:/indexhome.php ก็ไม่ต้องเก็บไฟล์ indexhome.php หรือ disallow:/indexhome.php?id ก็ไม่ต้องเก็บไฟล์ indexhome.php?[เป็น case ของ dynamic page]
Disallow:/*.file extension$ อาทิ disallow:/*.jpg$ ก็ไม่ต้องเก็บไฟล์ ที่มีนามสกุล jpg$

-----------------------------------------------------------
เหตุผลหลักๆที่ต้องใส่ robots.txt ก็เพราะต้องการป้องกันไม่ให้ robot ของ S/E มาเก็บข้อมูลที่เราไม่ต้องการให้แสดงใน S/E นั้น ๆอาจมีเหตุผลมาจากใน file/folder นั้น เป็น ความลับหรือ restriction zone/Log-in required zone เป็นต้น


เห็นหัวข้ออย่าเพิ่งตกใจครับ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่คนทำเว็บอยากให้เว็บของตนมีชื่ออยู่ใน Search Engine และหากเราไม่กำหนดเก็บเกณฑ์ให้ Search Engine ในการเข้ามาเก็บหน้าเว็บเพจของเราผลที่อาจเกิดขึ้นคือ การที่ Search Engine เก็บหน้่าเว็บเพจหรือไฟล์ที่เราไม่ต้องการให้เก็บเช่น เราอาจมีไฟล์ หรือ โฟลเดอร์ส่วนตัว หรือส่วนที่กันไว้สำหรับสมาชิก เป็นต้น ดังนั้น จึงได้มีการกำหนดวิธีที่ป้องกันไม่ให้ spider หรือ bot เข้ามาเก็บหน้าเว็บเพจต้องห้ามของเรา ( Spider หรือ Bot เป็นโปรแกรมของ Search Engine ที่ทำตัวเป็นนักค้นหาและท่องเว็บจากนั้นจะทำการบอกให้ ระบบ Search Engine Database ว่าควรเก็บหน้าเว็บเพจนั้นไว้หรือไม่ )

ผมเคยเขียนเรื่อง robots.txt ไว้ใน www.seo.in.th คัดมาให้อ่านกันครับ
ไฟล์ robots.txt

robots.txt เป็น fileที่บอก Search engine ว่า " ไม่ต้องมาเก็บเว็บไซต์ของฉัน หรือหน้าเว็บบางหน้า หรือไฟล์บางไฟล์ ในเว็บของฉันนะ ไป index หรือเก็บไว้ในสารระบบเว็บของเธอนะจ๊ะ " โดยเราสามารถสร้างไฟล์นี้โดยใช้ text editor อย่างเช่น notepad, editor plus หรือจะใช้ Dreamweaver หรือ โปรแกรมสร้างเว็บแบบ WYSWYG แล้ว save as เป็น Text File ก็ได้


การใช้ ไฟล์ Flash เพื่อสร้างสีสันให้กับเว็บไซต์นั้น ดูจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ด้วยขนาดและความสวยงามกว่าเมื่อเทียบกับ Gif Animation จนบางเว็บไซต์ต้องการสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับเว็บของตนเองด้วยการสร้าง เว็บไซต์ที่เป็น Flash ทั้งเว็บ แต่ในเชิงการทำให้ SEO แล้ว ดูจะเป็นสิ่งที่นักทำ SEO พยายามเลี่ยงที่จะไม่ใช้มันอย่างพร่ำเพรื่อ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไว้ข้อก่อนหน้านั้นว่า Search Engine ไม่ยินดีที่จะเก็บ Flash File ไว้ในระบบเท่าใดนัก อีกประการหนึ่งคือยิ่งไฟล์ Flash ที่ใหญ่มากเท่าใดโอกาสที่ผู้ชมจะทนรอจนโหลดเสร็จ ผู้ชมก็คงเปลี่ยนไปดูเว็บอื่นแล้ว

ความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บจึง ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดอันดับของ Search Engine หากเปรียบ search engine เหมือนผู้ชมเว็บไซต์ มันก็คงไม่อยากทนรอโหลดเว็บเป็นเวลานาน ๆ เช่นกัน
ใช้ Flash ในส่วนของ Navigation หรือ Menu

ใน ส่วน menu ของเว็บไซต์เป็นส่วนที่เหมือนสารบัญของหนังสือและจะเป็นตัวบอก Search Engine ได้ว่าเว็บนั้น ๆ มีลิ๊งก์สำคัญ ๆ อะไรบ้าง Search Engine ก็จะท่องเว็บนั้น ๆ ผ่านระบบ navigation ซึ่งเว็บนั้นๆได้ทำไว้ แต่มันจะไม่สามารถเดินตามลิี๊งก์ที่เว็บนั้นทำไว้ได้ หากระบบ Navigation หรือ Menu นั้นอยู่ในรูป Flash เพราะลิ๊งก์ของ Flash เก็บในรูปของ Flash Script ไม่ใช้ HTML Link ซึ่งสร้างปัญหาให้กับ Search Engine ในการท่องเว็บตามลิ๊งก์ ซึ่งอาจจะทำให้เว็บนั้นๆ ได้รับการ Index เพียงหน้าเดียวเท่านั้นคือ หน้าแรก และอาจส่งผลถึงอันดับในผลค้นหาของ Search Engine อีกด้วย

เห็นมั้ยล่ะ ครับว่า การสร้างและโปรโมทเว็บไซต์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในการจูงใจให้คนเข้่าที่ เว็บและัเอาใจ Search Engine เพื่อให้เว็บเรามีโอกาสได้อยู่ในสารบบของ Search Engine รวมทั้งสร้างโอกาสให้เว็บเราได้รับการค้นพบจากนักท่องเน็ตอีกด้วย


หลายเว็บไซต์เริ่มต้นหน้าแรกของเว็บด้วย Flash Animation หรือ GIF Image โดยไม่มีเนื้อหาใดที่เป็นตัวหนังสือเพื่อบอกให้ Search Engine รู้ว่าเว็บไซต์นั้น ๆ มีเนื้อหาหลักคืออะไร keyword ที่ใช้คืออะไร

นอก จากนั้น Search Engine เองก็ไม่สามารถเก็บ link ต่าง ๆ หรือเนื้อหาภายใน Flash ได้นั่นหมายความว่า เว็บเหล่านั้นพลาดโอกาสที่จะบอก Search Engine ว่า นอกจากหน้าแรกแล้ว ภายในเว็บของฉันยังมีข้อมูลที่น่้าสนใจอีกหลายหน้าที่สมควรได้รับการเก็บไว้ ในสารบบของ Search Engine ทำใ้่้ห้เว็บบางเว็บมีหน้าเว็บที่แสดงอยู่บนผลค้นหาเพียงเว็บเพจเดียว ทั้งที่ จริงๆแล้ว เว็บนั้นๆมีหน้าเว็บเป็นสิบ ๆ หน้า

สำหรับ หลายๆ เว็บไซต์ นอกจากสร้างเว็บหน้าแรก(Homepage) เป็น Splash Page แล้วยังใส่เทคนิคที่เรียกว่า Redirect หรือ ใส่คำสั่ง Refresh ลงไปซึ่งยิ่งทำให้มีปัญหากับ Search Engine เพราะการ ทำ Redirect นั้นหาก redirect ไปยังเว็บไซต์อื่น ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการ Spam ทำให้ Search Engine มองว่าเป็นการโกงอันดับซึ่งอาจนำไปสู่การถูกถอดออกจาก Index หรือสารบบของ Search Engine(Banning)


ช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมาผมได้ทดลองค้นหาเว็บไซต์โดยใช้ Keyword หลากหลายประเภท แต่การค้นหาเว็บของเว็บต่าง ๆ ไปจากเดิม จากที่เคยคลิ๊กผลค้นหาใน 2- 3 หน้าแรก ผมทดลองคลิ๊กผลค้นหาในหน้า 10 ขึ้นไปดู ก็ได้พบเว็บไซตฺ์มากมายที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามน่าดู แต่กลับต้องอยู่ในหน้าหลัง ๆ ของผลการค้นหาใน Seach Engine ซึ่งปัจจัยหลัก ๆที่เจอนอกจากจำนวน Inbound link หรือ link ที่เว็บอื่นทำลิ๊งก์มาหาเว็บนั้น ๆ) สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือการออกแบบเว็บที่ ดูไม่เป็นที่ต้องตา Search Engine หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Search-Engine-Friendly Design

ผมจึงขอสรุปปัญหาที่เว็บเหล่านั้นกำลังเผชิฺญอยู่มาออกมาเป็น ดังนี้
Frame เจ้าปัญหา

แม้ว่าการใช้เฟรมจะช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถชมเว็บเพจที่มีเนื้อหายาว ๆ ได้โดยที่เมนูยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่การใช้เฟรมในการสร้างเว็บนั้นทำให้การแสดงลิ๊งก์ใน Search Engine ไม่สมบูรณ์

แต่ สำหรับ Search Engine แล้วมันจะเก็บ URL ของแต่ละเฟรมไว้ และจะแสดงผลค้นหาออกมาเป็นเฟรมแยกต่างหากเช่นมันอาจจะแสดงไฟล์ MenuFrame.html หรือ HeadFrame.html หรือ maincontent.html ไฟล์ใดไฟล์หนึ่งหรือทั้งหมด ดังนั้น ผลค้นหาที่ผู้ค้นหาได้รับกลับเป็นหน้าเว็บที่ไม่สมบูรณ์ตามที่ผู้ออกแบบเว็บ ต้องการ อีกทั้ง Search Engine ก็ไม่ได้รับรายละเอียดของเว็บที่ถูกต้อง

Newer Posts Older Posts Home