แนวคิดดังกล่าวทำให้ Nintendo หันมาวิเคราะห์สิ่งที่เรียกว่า “ความแตกต่าง” มากยิ่งขึ้นก็พบกับจุดอ่อนของเจ้าใหญ่ที่ว่ามานั้นอยู่มากมายก่ายกองเลย แน่นอนครับสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ สนนราคานั้นแสนแพง กับวัสดุและอุปกรณ์เสริมที่มีราคาแพง อันนี้เขาเรียกว่ากลยุทธ์การแข่งขันทางราคา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ Nintendo ต้องการเอามาแข่งขันครับ กลับเป็นอีกแง่มุมหนึ่งก็คือ เขาต้องผลิตเครื่องเล่นเกมส์ที่มีราคาพอๆ กับสองรายนี้แต่วัสดุและอุปกรณ์เสริมต้องสามารถหาได้ง่าย และราคาไม่แพงมากนัก แนวคิดนี้ทำให้เกิดการสร้างน่านน้ำแห่งใหม่ขึ้นนั่นก็คือ Nintendo Wii หรือ Wii ที่เราๆ รู้จักกันนั่นเองครับ Wii (วี) สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดได้อย่างสง่าผ่าเผยเพราะไร้ซึ่งคู่แข่ง ด้วยวัสดุและอุปกรณ์ที่ราคาถูกกว่า และรองรับกับเกมส์แนวใหม่ๆ ได้มากกว่า นอกจากนั้นยังเล็กกว่าไม่เกะกะ และทำให้คอเกมส์สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างสบายอกสบายใจ ไม่โดนแม่ด่าว่า ทำไมบ้านฉันมันรกอย่างนี้ (เหอๆๆๆ)
Wii สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติ ศาสตร์ของโลกแห่งเกมส์ เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น Wii ก็สามารถครองอันดับหนึ่งในโลกของ Video Game ได้สำเร็จเรียกเอาได้ว่า สร้างน่านน้ำใหม่โดยไม่ต้องไปแข่งกับทะเลเลือดที่ห่ำหั่นกันอย่างรุนแรงของ สองยักษ์ใหญ่ในโลกแห่งเกมส์อย่าง Sony และ Microsoft (ซึ่งปัจจุบันนี้สองรายนี้เขาก็ยังต้องแข่งขันกันไปอย่างดุเดือดครับ)
เอาหละเอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันครับ เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะมาเล่าต่อว่า เหตุการณ์ที่พลิกผันให้ Nintendo ต้องสร้างน่านน้ำแห่งใหม่นั้นเขาวิเคราะห์กันอย่างไร และทำไมผมจึงให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “แตกต่างเพื่ออยู่รอด” แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ
แตกต่างเพื่ออยู่รอด (ภาค 1)
แตกต่างเพื่ออยู่รอด (ภาคจบ)
ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม