ก่อนอื่น คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการโฆษณา อาจจะงงกับตัวเลข 0.8% หรือ 2% มันคืออะไร ผมขออธิบายอย่างง่าย ๆ ได้ว่ามันคือ จำนวน 0.8% ของเม็ดเงินมูลค่าการซื้อโฆษณา ทั้งหมดของประเทศไทย คือถ้าเทียบร้อยเปอร์เซ็น จะพบว่า งบโฆษณาส่วนใหญ่ ไปตามสื่อกระแสหลัก เช่น โฆษณาในโทรทัศน์ วิทยุ หรือหนังสือพิมพ์เป็นต้น ยิ่งเป็นโฆษณาทีวีด้วยแล้ว กินเงินไปเยอะเชียวครับ แต่เม็ดเงินจำนวนแค่ 0.8% ที่มาซื้อออนไลน์นั้น ยังถือว่าน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิค
ดังนั้น วงการโฆษณา Digital Marketing รวมทั้งวงการเว็บมาสเตอร์ ต้องการที่จะเห็นเม็ดเงินโฆษณา ไหลเข้ามาสู่สื่อ Digital มากยิ่งขึ้น เลยมีคำถามออกมาว่า “ทำอย่างไร ให้การใช้เงินโฆษณาออนไลน์ โตจาก 0.8% ไปเป็น 2%”
ผมตอบไปในงานจิบกาแฟ อย่างคร่าว ๆ ว่า ต้องเป็นความร่วมมือกันหลายฝ่าย มันถึงจะดันให้ตลาดโตขึ้นมาได้ โดยแบ่งเป็นสามฝ่ายใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ฝ่ายเจ้าของเว็บ
เราสามารถเรียกเว็บต่าง ๆ ได้ว่าเป็นสื่อแต่ละยี่ห้อนั่นเอง ทางเจ้าของเว็บเอง ต้องทำให้เว็บไซต์มีเนื้อหาที่ดี และมีประโยชน์ให้กับผู้เข้าชมอย่างชัดเจน ไม่ทำการสร้างทราฟฟิคหลอก ๆ ขึ้นมา เช่นการใช้เทคนิคด้านมืด โกงให้ตัวเลขคนเข้าเว็บเยอะ ๆ จะได้มีคนมาลงโฆษณา หากเจ้าของเว็บทำแบบนี้แล้ว และมีคนมาลงโฆษณาจริง แต่พอเมื่อจบแคมเปญ จะพบว่าเว็บที่ตัวเลขคนเข้าเว็บเยอะ แต่ไม่ได้มีคนเข้ามาจริง ๆ ผู้โฆษณา หรือผู้กุมเงิน ก็จะผลตอบแทนอย่างที่ควรจะเป็น สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจ ของคนกำเงิน (หรือผู้ซื้อโฆษณานั่นเอง) หากผู้โฆษณาไม่เชื่อถือ สื่ออินเตอร์เน็ท ก็จะทำให้ตลาดไม่โตเท่าที่ควร
2. ฝ่ายเอเจนซี่โฆษณา
ฝ่ายนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวกลาง ทำให้ผู้ซื้อโฆษณา มาเจอกับเจ้าของเว็บ หน้าที่ของเอเจนซี่คือ การวางแผนให้แคมเปญต่าง ๆ ของลูกค้า ประสบความสำเร็จ มีบทบาทสำคัญคือ ต้องวางแผน และให้คำแนะนำกับทั้งเจ้าของเว็บ และผู้ซื้อโฆษณา ได้อย่างดี เพราะการวิเคราะห์ที่ผิดพลาดต่าง ๆ ก็จะทำให้ผู้ซื้อโฆษณา ไม่ได้รับแคมเปญโฆษณาที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ดังนั้นทางฝ่ายเอเจนซี่ ก็ต้องทำงานวางแผน digital marketing ให้ดี และก็ต้องมีสอนให้ลูกค้า รู้จัก และเข้าใจสื่อ digital media มากยิ่งขึ้น
3. ฝ่ายผู้ซื้อโฆษณา
เรามักจะแอบเรียกฝ่ายผู้ซื้อโฆษณาว่า “ลูกค้า” ซึ่งลูกค้าเอง ก็ต้องเข้าใจในมุมของ Digital Marketing ว่า มันสามารถทำแคมเปญโฆษณา ได้ตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้จริง ๆ
โดยทั้ง 3 ฝ่าย ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งทั้งสามฝ่าย ก็มีงานที่หนักในส่วนของตัวเองกันทั้งนั้น ดังนั้นก็คงต้องร่วมมือกัน ในทุก ๆ ส่วนครับ
ที่มา : เก่งดอทคอม