การโฆษณาแบบ Pay Per Click นั้นจะเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาก็ต่อเมื่อมีการคลิกโฆษณาผ่านเข้ัาไปชม เว็บไซท์ที่เราได้ไปลงโฆษณาไว้ โดยราคาค่าโฆษณาขึ้นกับ กลุ่มคำค้นหา (Keyword) ที่ผู้ลงโฆษณาได้เลือกไว้ และค่าโฆษณาในแต่ละตลาด แต่ละ keyword ก็มีราคาที่แตกต่างกัน การโฆษณาแบบ Pay Per Click นั้นถ้าคุณต้องการให้โฆษณาของคุณอยู่ในอันดับแรกๆ และมีโอกาสในการถูกเห็น (มี Impression) และมีโอกาสในการถูกคลิกเพื่อเข้าชมเว็บไซท์ที่คุณทำการลงโฆษณาไว้นั้น คุณจำเป็นต้องเสนอราคาค่าโฆษณาในคำค้นหาเดียวกันกับคู่แข่งของคุณให้สูงกว่า ราคาที่คู่แข่งเสนอมา (ผมเรียกว่า Bid ให้สูงกว่าคู่แข่ง) แต่ในปัจจุบันราคา Bid ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัจจัยเดียวในการนำเข้ามาคิดอันดับในการแสดงโฆษณาแล้ว ในปัจจุบันนั้นผู้ให้บริการโฆษณาแบบ Pay Per Click ได้นำเอาระบบ Quality Score (QS) เข้ามาใช้คำนวนในการจัดอันดับโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเริ่มแรกสมัยที่ยังไม่มี Factor อะไรมากมายใน QS นั้น ผู้ให้บริการโฆษณาแบบ Pay Per Click ใช้เพียงแค่ราคา Bid กับ CTR (Click Through Rate คือ อัตราการคลิกผ่านโฆษณาต่อการเห็นโฆษณา เช่น เห็นโฆษณา (Impression) 100 ครั้ง มีคนคลิกเข้าดู 10 ครั้ง ถ้าเป็นกรณีนี้ CTR จะเท่ากับ 10%) ซึ่งในอดีตการทำโฆษณา PPC มีความซับซ้อนในการจัดอันดับโฆษณาที่น้อยกว่าในยุคปัจจุบันอยู่มากพอสมควร รายละเอียดเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Pay Per Click ผมขออนุญาตที่จะนำมาเขียนให้อ่านในหัวข้อต่อๆไปนะครับ ติดตามรับชมกันได้เรื่อยๆ
ที่มา : เอสแอลคลิกบิทดอทคอม