A Blogger by Beamcool

บล็อค ที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ การตลาด seo และ วิธีการ หาเงิน บน อินเตอร์เน็ต เทคนิคในการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต ( เราหมายถึงการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต จริง ๆ ที่ไม่ใช่การชวนเข้า mlm แต่อย่างใดครับ) รวมถึง บริการออนไลน์ ออฟไลน์ ต่าง ๆ ในเครือ Wittybuzz ไว้ด้วยกัน ใครที่เยี่ยมชมนี้ด้วย Internet Explorer แนะนำให้ดาวโหลด Firefox มาใช้จะดีกว่าครับ นอกจากลูกเล่นจะมีเยอะกว่า ยังมีเครื่องมือที่สนับสนุน SEO อีกด้วยครับ


สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เราควรคิดให้รอบคอบ เกี่ยวกับการสร้าง Category ให้ดีดีเพื่อลดปัญหาความซับซ้อนของ หน้าเพจและบล็อกของเราทั้งนี้เพื่อจะได้ทำให้ผู้ที่เข้ามานั้นได้เห็นถึง ความแตกต่าง และความสามารถในการสร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น จุดมุ่งหมายที่ผมกล่าวมานี้ก็คือ หนึ่งในกระบวนการพัฒนาการสร้างรายได้สู่ยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจต้องอาศัยเครื่องมือผสมอย่าง Widget เข้ามาช่วยเสริม และแน่นอนครับ ควรทำการสร้างคุณลักษณะพิเศษเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ด้วยเพราะนั่นจะยิ่งทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

แม้ว่าโครงการที่ผมได้กล่าวมานี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ “การศึกษาค้นคว้า” ส่วนตัวของผมเองแต่ก็อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ลองนำไปใช้ ได้ลองคิดเพื่อทำสิ่งใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับเรา เพราะนั่นย่อมดีกว่าการโอดครวญว่า “จนป่านนี้ข้ายังขายอะไรไม่ได้” เป็นไหนๆ ขอเพียงต้องลงทุนเพิ่มอีกนิด ชีวิตอาจเปลี่ยนไปเป็น “เศรษฐี” ได้ง่ายๆ เลยก็อาจเป็นได้ไม่เชื่อลองดูซิครับ.

Blog Marketing Design (ภาค 1)
Blog Marketing Design (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


การออกแบบถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่จะช่วยให้ “บล็อก” ของเราขายของได้ ผมเองได้เคยคิดและนำเสนอเรื่องนี้มาหลายครั้งหลายครา แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะ “สนใจ” ที่จะศึกษา ความจริงแล้วแนวคิดที่เราเองจะต่อยอดเพื่อเพิ่มการขาย หรือเพื่อทำตลาดให้ได้มากๆ นั้นถือเป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก บางครั้งคำว่า “น่าเชื่อถือ” ก็มีประเด็นสำคัญมากมายให้ได้สนใจ และไม่ควรมองข้ามอย่างรุนแรง

Blog Marketing Design ถือได้ว่าเป็นรูปแบบใหม่ๆ ที่ผมเองก็เริ่มนำมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบล็อก และแน่นอนครับสิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นหลักๆ ก็คือชื่อ “Branding” ของเรานั่นเองครับ บางท่านอาจบอกว่าอ้าว แล้วถ้าหาธีมดีดีไม่ได้จะทำอย่างไรกันหละ อันนี้ก็แล้วแต่ครับถ้าเราจะลงทุนเพิ่มเล็กน้อย ก็อาจได้ผลในระดับที่น่าพอใจก็เป็นได้เช่นกัน สำหรับผมการทำงานเหล่านี้ถือได้ว่าเราต้องพัฒนารูปแบบการสร้างรายได้ให้กับ ตนเองเพื่อจะได้ไม่ “ตัน” อย่างที่เราๆ เป็นกังวลกันในตอนนี้

Blog Marketing Design (ภาค 1)
Blog Marketing Design (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


5. Content and Copywriting
a) Remember, short attention spans so write postcards not stories
b) Clear, simple direct communication with one topic per page
c) Don’t forget to include keywords in content

6. Build
a) Get the right domain name
b) Decide on the technologies to use and use up to date standards
c) Ensure site structure is search engine friendly and optimised

7. Accessibility
a) Ensure compliance with the law (Disabilities Discrimination Act)
b) Consider screen readers
c) Validate your site with online tools 8. User Testing
a) Don’t forget to test your site on your target audience before launch

9. Marketing
a) Consider other online avenues; pay-per-click, email marketing, directories and listings, e-PR

10. Maintenance
a) Update content regularly and ensure you are compliant with any changes in the law
b) Remember to remove any expired offers or incentives

แม้ว่าบางขั้นตอนผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่แต่โดยรวมแล้วคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่กำลังต้องการทำเว็บไซต์หรือมีเวบไซต์เป็นของตนเอง

10 ขั้นตอนในการทำเว็บไซต์ให้สำเร็จ (ภาค 1)
10 ขั้นตอนในการทำเว็บไซต์ให้สำเร็จ (ภาคจบ)


ในเว็บไซต์ acadamyinternet.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านที่ปรึกษาการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตของอังกฤษได้ ให้ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะทำเว็บไซต์ใหม่ โดยใช้หัวข้อว่า “Checklist for anyone planning a new website “ หรือ “10 ข้อควรคำนึงสำหรับผู้ที่คิดจะมีเว็บไซต์” ดังนี้(ขออนุญาติไม่แปล)

< 10 Steps to a Successful Website>

1. Purpose of site
a) Define your purpose (Sell/Inform/Ego)
b) Define and understand your target audience
c) Keyword analysis
d) Ensure functionality
e) Define and stick to budget

2. Search Engine Optimisation Strategy (SEO คืออะไร)
a) Measure, edit and review keywords
b) Monitor your site’s performance to ensure you stay at the top
c) Remember, you CAN please both users and search engines at the same time

3. Plan Structure
a) What content/product will feature?
b) Where will it sit on the site?
c) Consider keyword structure
d) Plan site structure

4. Design
a) Who will design your site?
b) Maintain a concept for look and feel
c) Think about branding or re-branding
d) Remember to consider the layout and usability

10 ขั้นตอนในการทำเว็บไซต์ให้สำเร็จ (ภาค 1)
10 ขั้นตอนในการทำเว็บไซต์ให้สำเร็จ (ภาคจบ)


โดยรูปแบบการเชื่อมต่อดังกล่าวนี้ ผมใช้วิธีการ Optimization ระบบหรืออาจพูดว่าการปรับแต่งระบบเพื่อให้สามารถเข้าไปมีข้อมูลใน Search Engine ได้นั่นเองถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือการทำ Search Engine Optimization (SEO) นั่นเองครับเพียงแต่เป็นการทำอย่างมีจุดมุ่งหมายเฉพาะเพื่อแนะนำสินค้าโดยตรง หรือการทำโฆษณาสินค้าโดยตรง

จากรูปแบบดังกล่าวทำให้ผมเองสามารถค้นหาลูกค้าได้อย่างมากมายในโลกออ นไลน์ และส่งผลให้เกิดแรงสะท้อนมาเป็นรายได้ที่ พอเหมาะพอควรเอาการทีเดียว เมื่อเทียบกับรูปแบบเดิมๆ ที่เคยใช้อยู่เช่นการนำเรื่องราวอื่นๆ มาเล่าหรือเขียนข้อมูลที่เป็นแนวกว้างๆ เกินไป การทำรูปแบบนี้กลับทำให้สามารถมีลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และสามารถสร้างเม็ดเงินเข้ากระเป๋าได้เดือนละหลายพันบาทเลยละครับ

สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเกี่ยวกับการทำ Blog Marketing และ Blog Advertising นั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวกับสินค้าที่เราเขียนเองหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับการประยุกต์สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อการตลาดของเราได้ อย่างไร บางครั้งเส้นผมก็บังภูเขาของเราเองทั้งๆ ที่เรื่องไกล้ตัวมักถูกมองไม่เห็นแต่เราจะเห็นสิ่งไกลตัวมากกว่าเรื่องไกล้ตัวเช่น “การไม่รู้ภาษาอังกฤษ” แล้วจะสามารถทำได้อย่างไร หรือผมเขียนภาษาอังกฤษไม่เป็นแล้วจะทำแบบคุณต้นได้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกท่านก็คือ “ผมเองไม่เคยมีความรู้เรื่องภาษาเหล่านี้เลย” และผมเองก็ใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ถูกๆ ด้วยซ้ำเพราะผมแค่อ่านยังอ่านผิด หรือแค่เขียนคำง่ายๆ ยังผิดเลย สิ่งที่ผมทำในปัจจุับันก็คือการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ให้ มากที่สุด และที่สำคัญต้องเหมาะสมทำเงินได้ด้วยน๊ะจะบอกให้

โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาค 1)
โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


เมื่อเราพูดถึงโฆษณาแล้วนั้น เราอาจพบเห็นสื่อต่างๆ มากมายก็ยังคงมีรูปแบบของคำว่า “โฆษณา” ติดอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ทีวี หรือเว็บไซต์ใหญ่ๆ ต่างๆ ก็เฉกเช่นเดียวกัน บล็อกเองก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสื่อเหล่านั้นมากนัก เพียงแต่บล็อกมีเนื้อหาที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงจึงทำให้ได้เปรียบในเชิงการ ค้า ต้องบอกว่าในเชิงลึกเนื่องจากบล็อกเองสามารถเลือกกลุ่มผู้อ่านได้ตาม อายุ เภท และวัย แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เนื้อหาต่างๆ จะต้องเป็นสาธารณะประโยชน์ ซึ่งทำให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่านั่นเองครับ

ปัจจุบันมีบล็อกเกอร์เป็นจำนวนมากมายในโลกใบนี้ ที่สามารถสร้างเม็ดเงินจากโฆษณาผ่านบล็อก และหนึ่งในนั้นก็มีบล็อกการตลาดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน รูปแบบของการทำโฆษณาโดยอาศัยสื่ออย่างบล็อกนั้น มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าโดยตรง การทำรีวิวสินค้า และการติดป้ายโฆษณาธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยทั้งหลักการคิดและรูปแบบการโฆษณาที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่ผมใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดในการแนะนำสินค้านั้น ก็คือผมใช้สื่ออย่าง Search Engine เป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อระหว่าง สินค้าและผู้บริโภค หรืออาจพูดง่ายๆ ก็คือ สินค้าในบล็อกของผมเชื่อมกับ Search Engine แล้ว Search Engine ก็จะเชื่อมต่อไปยังลูกค้าของเราอีกที ดังรูปแบบต่อไปนี้

บล็อกการตลาด (Blog Marketing) +SEO+ Search Engine = ลูกค้า (Customer)

โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาค 1)
โฆษณาจ๊ะจ๋าภาษาบล็อก (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


คงพอเข้าใจกันหนะครับ (ไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจหละ เพราะว่าบางท่านอ่านมาเป็นปีแล้ว) ถามว่า “ทำไมเราต้องรู้จักตลาด Affiliate ของเราด้วย” คำตอบก็คือ เพราะว่า Affiliate ที่เราทำนั้นส่วนใหญ่จะมีความกว้างของตลาดสูง (อันนี้ไม่ได้จำกัดที่ Amazon.com เพียงแห่งเดียวหนะครับ เพราะมีอีกหลาย? แห่งเหมือนกัน) ฉนั้นการที่จะให้ได้ผล แน่นอนครับเราต้องหาตลาดของเราให้พบ ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เราสูญเสียพลังงานอย่างสูง และ ถ้าหากว่ามีการลงทุนด้านการโฆษณาผ่านสื่ออย่าง Pay Per Click (PPC) ด้วยแล้วหละก็ ยิ่งต้องทำให้เรา คิดในเรื่องการกำหนดขอบเขตของตลาดมากขึ้น เพราะว่าการทำ Affiliate Marketing นั้นผมสังเกตุเห็นบางท่าน นำสินค้าออกจำหน่ายกันทั่วโลกเลย “มุมมองหนึ่งที่ผมเห็น สำหรับคนที่ทำเช่นนี้ก็คือ มองว่า ตลาดนั้นกว้างใหญ่มาก มีโอกาสทำกำไรได้สูง” ในทางกลับกันครับ ไม่ใช่เช่นนั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากว่า ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ได้ นอกจากการเข้าไปดูข้อมูล แล้วไปหาซื้อตามร้าน หรือ ห้างร้านต่าง ๆ ภายในประเทศของเขาเท่านั้น โดยเฉพาะประเทศไทย เนื่องจากความนิยมในการซื้อสินค้าออนไลน์ “ต่ำ” นั่นเอง

การศึกษาวงจรของตลาด และ ขอบเขตของตลาด นั้นจะส่งผลให้เราสามารถทำกำไรได้สูงขึ้น และ ลดต้นทุนลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเราจะสามารถกำหนด กลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย โดยก่อนที่เราจะลงมือทำงานอย่างเต็มที่นั้น เราต้องมองตลาดของเราให้ออกว่า จริง ๆ แล้วเหมาะกับคนกลุ่มไหน และ ประเทศอะไรเป็นหลัก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการทำงาน ฉนั้น “อย่าลืมมองตลาดของเราก่อนหนะครับ”

รู้จักตลาด Affiliate Marketing ของเรา (ภาค 1)

รู้จักตลาด Affiliate Marketing ของเรา (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


สิ่งที่ท้าทายชาว Affiliate Marketing ทั้งหลายก็คือ การสร้างกำไรจากการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งหากจะพูดไปแล้วนั่นก็คือ “กลยุทธ์” ที่จะช่วยทำให้การทำงานของชาว Affiliate ประสบความสำเร็จในการทำกำไรมากขึ้น

กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากที่หายไปสักสองสามวัน ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ว่างมานั่งเขียนสักเท่าไหร่ ประกอบกับ งานในส่วนของ Amazon Affiliate หรือ Amazon Associates นั้นก็แผ่ว ๆ ไปนิดเพราะว่า Index หลายแห่งหดหายไปมากทีเดียว แต่ก็สู้กันต่อไปครับ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาที่แห่งนี้และได้เข้าไปทำ Affiliate กันมากขึ้น และคงพอมีกำไรกันบ้าง ก็อย่าท้อกันหนะครับ สู้ต่อไป ถ้าหากว่าวันนี้ทำยังไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ต้องได้ หรือ มันต้องได้สักวันนั่นแหละ ขอเพียงเราไม่ท้อ ความสำเร็จก็จะมา ถ้าจะว่าไปแล้วช่วงนี้เป็นช่วงของการพิสูจน์ตัวเราเอง ว่าเรานั้นจริงจังกับงานนี้แค่ไหน ? ก็เอามาเล่าสู่กันฟังหนะครับ เพราะว่าผมเองก็ทำไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน ได้มากบ้าง น้อยบ้างก็ธรรมดา เพราะไม่ได้ลงทุนอะไร ลงแค่แรงอย่างเดียว เอาหละวันนี้ผมจะมาพูดถึง “ตลาดของเรา” กันว่า “รู้จักตลาด Affiliate Marketing ของเรา” ซึ่งก็คงขออธิบายให้ทราบกันก่อนว่า “ตลาดของเรา” ในที่นี้หมายถึง สถานที่ที่เราต้องการจะทำกิจกรรมด้านการตลาด หรือ กลุ่มคน หรือ สังคมหนึ่ง ๆ ที่เราต้องการนำเสนอสินค้าหรือบริการ

รู้จักตลาด Affiliate Marketing ของเรา (ภาค 1)

รู้จักตลาด Affiliate Marketing ของเรา (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


3.3 E-Commerce Times

ลองแวะไปอ่าน ๆ ดูครับว่าธุรกิจ หรือ แนวโน้มของการค้าออนไลน์นั้น ไปในทิศทางใด (ข้อมูลส่วนใหญ่ที่นี่จะเน้นหนักไปทาง อเมริกา และ แคนาดา รวมถึงธุรกิจใน ยุโรป) สำหรับ E-Commerce Times

และเครื่องมือสุดท้ายสำหรับวันนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยิน หรือ อาจได้ใช้ หรือ อาจต้องบอกว่า มันเป็นเครื่องมือ (ตรงไหนวะ) ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่นั่นก็คือ

3.4 BusinessWeek

นับเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารอีกแห่ง ที่ฟรี และ ท่านสามารถเข้าไปหาข้อมูลได้ โดยที่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาเป็นประจำเกือบ ๆ จะทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้ BusinessWeek นับเป็นเครื่องมือที่หลาย ๆ คนมองว่าไม่น่าจะใช่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสามารถบอกได้ว่าที่ไหน กำฮิตสินค้าอะไร (น๊ะจะบอกให้) เพื่อให้เราสามารถทราบได้ และ ไม่ต้องเสียเวลามากมายมาทดสอบกันมากนัก

นี่ก็คือสุดยอดเครื่องมือ และ แหล่งข้อมูลสำหรับ Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools ที่ผมใช้เป็นประจำ และ ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด หลังจากเราสามารถค้นหาสินค้าได้แล้ว หรือ เห็นความนิยมสินค้าได้แล้ว คราวนี้คุณก็ค่อยมาทำ Keywords Research ซึ่งจะเป็นงานที่ต่อจากนี้ ส่วนวิธีการ หรือ หลักการนั้นจะทำอย่างไรคงต้องรออ่านกันในตอนต่อไปเสียแล้วหละครับ วันนี้ผมคงขอตัวไปทำงานก่อนหละครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีและร่ำรวย ๆ? น่ะครับ

Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 1)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 2)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 3)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 4)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


3.1 Google Music Trends

ที่แห่งนี้มีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายให้เราได้นำไปใช้ เช่น Google Music Trends ที่ สามารถทำให้เราทราบได้ว่าปัจจุบันนั้น เทรนไหนสุดฮิต และ สุดฮอท ในตอนนี้ ช่วยในการทำ Research สำหรับคนที่ต้องการขายเพลงได้เป็นอย่างดี ว่าควรเริ่มอย่างไร

?3.2? Google Trends

สำหรับเครื่องมือตัวนี้นับเป็นสุดยอด เครื่องมือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ ที่ฟรีและทรงประสิทธิภาพมากทีเดียว เพื่อช่วยให้การค้นหาความนิยม และ สินค้าที่ได้รับผลตอบรับดีดีในหลาย ๆ ประเทศ Google Trends นับ เป็นเครื่องมือที่ดีอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมือ ที่ใช้ในกิจกรรมด้าน Marketing Research? สำหรับธุรกิจออนไลน์ เพราะจะสามารถเปรียบเทียบสินค้า และ กลุ่มประเทศที่สนใจสินค้าได้เป็นอย่างดี ผมมองว่า Google Trends เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่ทำ Online Marketing หรือ Internet Marketing ได้ดีอย่างมาก เพราะมีการเปรียบเทียบ และ แสดงผลที่ดูง่าย ไม่ยุ่งยากมากนัก สำหรับการค้นหาความนิยมออนไลน์ สำหรับสินค้าและบริการต่าง?ๆ ทั่วโลก

เครื่องมือนี้ใช้ในการค้นหากลุ่มเป้ามหมายได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ผมเองก็ใช้เป็นประจำ เพื่อน ๆ และ พี่ ๆ ลองไปใช้กันดูหนะครับ อาจทำให้มีสินค้าที่โดนใจได้รับความนิยมที่ใดสักแห่งก็ได้จะได้ เริ่มขายได้ถูกต้อง

Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 1)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 2)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 3)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 4)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools

1. กาย จิตใจ และ สติปัญญา
ความสำคัญอันดับแรก คือเรื่อง ร่างกายและจิตใจ คุณต้องเชื่อมั่นในความสำเร็จของคุณ ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงของอนาคตตนเองให้ได้ สู้และมีสมอง ย้ำอีกครั้งหนะครับ ต้องสู้และมีสมอง อย่าใช้เพียงกำลัง และ ความขยันเพียงอย่างเดียว งานนี้ไม่ต้องมีกำลัง และ ความขยันมากนัก แต่ต้องอาศัยความคิด สติปัญญา และ การเรียนรู้แบบคนโง่ (คนโง่มักเรียนรู้โดยไม่เกี่ยง แต่คนฉลาดมักเรียนรู้โดยบอกว่า “กรู รู้แล้วเว้ยยยยยย” )

2. Money หรือ เงินทุน
ต้องบอกก่อนว่า Affiliate Marketing คือธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล แต่คำว่าธุรกิจ ต้องอาศัยเงินทุน (ถึงจะเล็กน้อย นั่นก็คือทุน) ในช่วงการเริ่มต้นสิ่งสำคัญก็คือ คุณต้องอาศัยทุนสักเล็กน้อย เพื่อเริ่มธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อจะได้รู้แนวทางและโครงสร้างต่าง ๆ ว่ามันสามารถให้ผลตอบแทนอย่างไร ในขั้นตอนพื้นฐานนี้ผมไม่แนะนำให้คุณทำการโฆษณาในทันทีทันใด โดยไม่ได้อ่านเนื้อหานี้ให้จบเสียก่อน

3. Marketing Research Tool Basic
มากันเสียทีหลายคนรอตัวนี้อยู่แน่ ๆ ครับ แต่จริง ๆ ผมไม่ได้ถือว่ามันเป็นเครื่องมือหรอก แต่มันก็สามารถใช้งานได้ดี และ สร้างผลกำไรให้คุณได้ในแบบ Step By Step เลยหละ ก่อนจะแนะนำเครื่องมือเหล่านี้ผมขอชีแจงก่อนครับว่า ฟรี ครับไม่ต้องกลัวว่าจะได้ใช้ข้อ 2 ก่อนกำหนด เครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้โดยทั่วไปอาจมองว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร แต่สำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์เลยก็ว่าได้ ตัวอย่างเครื่องมือที่ผมจะเอามาพูดนี้ อาจเป็นเครื่องมือที่หลายท่านใช้อยู่เป็นประจำเริ่มจากตัวที่

Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 1)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 2)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 3)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 4)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


ข้อดีก็คือ มันสามารถสร้างรายได้ให้กับคนเล่นเน็ตได้นับ ล้านบาท ย้ำว่า ล้านบาท ครับโดยอาศัยความสามารถในการขาย (มากพอสมควร) และความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ หรือพูดง่าย ๆ ใช้เน็ตเป็นนั่นแหละ (ถ้าใครใช้ไม่เป็น ก็หาหนังสืออ่านซะ เขามีขายเยอะแยะไป รีบเลยหนะครับ) หลายคนกังวลเรืองภาษา ผมบอกท่านตรง ๆ ว่าผมเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอะไรครับ แค่งู ๆ ปลา ๆ ไปนั่นแหละอาศัยหลักการจำ และ การเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน (เลียนแบบ) คิดว่าหลายคนทำเป็น ก็ขนาดสร้างของปลอมเรายังทำได้ (ไม่ได้ว่าใครน๊า…) แต่สิ่งสำคัญของการทำ Affiliate Marketing ก็ คือ เครื่องมือ หรือ Tools ที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจกันนั่นแหละ เครื่องมือในที่นี้ไม่ใช่ ค้อน ตะปู หรือ เลื่อย อะไรหรอกหนะครับ แต่มันเป็นเครื่องมือที่เราใช้ในการทุ่นแรง เพื่อทำ Marketing Research สำหรับ ธุรกิจของเรา (ขอเรียกว่าธุรกิจของเรา แล้วกันหนะครับ เพราะมันสร้างเงินให้เรา) เครื่องมือที่เราจำเป็นต้องใช้อย่างมาก และ ขาดไม่ได้เลย เรียกว่า Tools Basic นั่นเองมีดังนี้ ห้ามขาดอย่างใดอย่างหนึ่งเด็ดขาด ถ้าขาดธุรกิจนี้ จบกันและไม่ต้องทำแล้วหละครับ คุณมีแต่เจ้ง กับ เจ้ง งานนี้ไม่มีฟลุ๊คครับผมขอบอก ไม่เชื่อลองถามหลายคนที่ทำดูครับว่ามันฟลุ๊คมั่งอะเป่า ? เอาหละเรามาดูเครื่องมือสำคัญที่ว่ากันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรกันบ้างในครั้งหน้าน่ะครับ

Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 1)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 2)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 3)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 4)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools เครื่องมือขั้นพื้นฐานในการทำวิจัยตลาด ธุรกิจออนไลน์

เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงรอคอยเรื่องนี้กันมานานพอสมควรครับ อันที่จริงหลายคนคงคิดว่า ผมใช้เครื่องมือที่ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน วันนี้แหละผมจะมาไขปริศนาให้คุณได้อึ้งกันไปเลยว่า อะไรกัน (วะ) ทำไมใช้แค่นี้เองเหร๋อ ? แล้วมันรู้จริง ๆ อะเปล่า ? ผมว่าคุณเก็บคำถามนั้นไว้ แล้วอ่านไปให้จบ มีคำถามไปถามเอาตอนท้ายก็แล้วกันครับ เพราะตอบง่ายกว่ากันเยอะครับ

Affiliate Marketing คือการร่วมทำธุรกิจกับผู้ประกอบการ ที่ผลิตสินค้า หรือ ตัวแทนจำหน่าย ในการร่วมขายสินค้าและบริการ โดยเราไม่ต้องลงทุนในการสร้างสต๊อค หรือ แม้แต่ขนส่ง หน้าที่หลักของ Affiliate Marketor ก็คือโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อจำหน่ายสินค้าให้ได้ โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นคอมมิสชั่น ตามความเหมาะสม และ ข้อตักลงของผู้ประกอบการ หรือ ตัวแทนจำหน่ายสินค้านั้น ๆ

Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 1)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 2)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 3)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาค 4)
Affiliate Marketing and Internet Marketing Research Tools Basic (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


สรุปรวมผมโฆษณาไป 2 วันครับเสียค่าโฆษณาไป $7 เศษ ๆ ได้มา $120 นี่คือผลการทดสอบของผมจากสิ่งที่คิดเอาเอง ในตอนแรกไม่ว่าจะเป็นสินค้า และ keyword แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าผมดวงดีที่ได้สินค้าที่สามารถขายได้ดีก็ได้ หลังจากวันที่สามไปผมก็โฆษณาต่อไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนด 5 วันทำการก็มีบางวันที่ไม่ได้ออเดอร์เลยเช่นกันครับ แต่ก็เฉลี่ยะกันแล้ว ผมกำไรกว่า 400% เลยทีเดียว

ครับก็เป็นประสบการณ์ของผมที่ได้ทดสอบการสร้างรายได้ด้วย Affiliate Marketing จาก amazon.com ครับเอามาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวคิดสำหรับท่านที่สนใจสร้างรายได้ด้วย Affiliate Marketing สิ่งที่ผมจะแนะนำคุณตรงนี้ก็คือ หา Keyword ที่คุณคิดว่าถ้าคุณจะซื้อคุณจะคำว่าอะไร ? ให้ได้แล้วการขายของคุณจะง่ายยิ่งกว่าอะไรเสียอีก อ้อ..ผมขอบอกท่านก่อนว่าผมเองไม่เคยทำ Affiliate Marketing มาก่อนหนะครับ งานนี้จึงเป็นงานแรก และ เป็นงานอันยิ่งใหญ่ของผมครับ.

Pay Per Click Management (ภาค 1)
Pay Per Click Management (ภาค 2)
Pay Per Click Management (ภาค 3)
Pay Per Click Management (ภาค 4)
Pay Per Click Management (ภาค 5)
Pay Per Click Management (ภาค 6)
Pay Per Click Management (ภาค 7)
Pay Per Click Management (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม


เช้าวันที่สาม
วันนี้ผมไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำงานปกติ แล้วก็รอตรวจคลิกในช่วงค่ำ ๆ แล้วก็ออเดอร์เท่านั้น จนกระทั้งประมาณ 21:00 น.ผมก็เข้าไปใน A/C ของ amazon.com ผลปรากฏว่าวันนี้ยังไม่ทำการอัพเดท ยังเป็นของเมื่อวานอยู่ แต่ก็รอครับคงไม่นานเกินรอ จนประมาณ 23:00 น.ได้ก็อัพเดทเข้ามาครับ วันนี้ผมได้คลิกน้อยลงไปครับคือ

จำนวนคลิก = 17 คลิก (ไม่มีมาจากที่อื่น ๆ เลย)
จำนวนยอดขายวันนี้ = 3 ออเดอร์ (ว้าว…ขายได้อีกแล้ว) โดยมี 1 ออเดอร์มาจากลูกค้าที่เคยคลิกจากเมื่อวาน เข้ามาซื้อ

รวมแล้ววันนี้ผมขายของได้ยอดเยอะกว่าเมื่อวานครับคือขายได้ยอดรวมทั้ง สิ้น $1732.05 ทำให้ผมได้ค่าคอมฯ วันนี้เป็น $70 เต็ม ๆ วันนี้เป็นวันที่ผมดีใจสุด ๆ ครับเพราะว่าผมได้ทำการโฆษณาไปเพียงสองวันเท่านั้นก็ได้ค่าคอมฯมาแล้ว $120 โดยประมาณ นับว่าไม่เลวร้ายเสียทีเดียวครับ

Pay Per Click Management (ภาค 1)
Pay Per Click Management (ภาค 2)
Pay Per Click Management (ภาค 3)
Pay Per Click Management (ภาค 4)
Pay Per Click Management (ภาค 5)
Pay Per Click Management (ภาค 6)
Pay Per Click Management (ภาค 7)
Pay Per Click Management (ภาคจบ)

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม

Newer Posts Older Posts Home