A Blogger by Beamcool

บล็อค ที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ การตลาด seo และ วิธีการ หาเงิน บน อินเตอร์เน็ต เทคนิคในการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต ( เราหมายถึงการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต จริง ๆ ที่ไม่ใช่การชวนเข้า mlm แต่อย่างใดครับ) รวมถึง บริการออนไลน์ ออฟไลน์ ต่าง ๆ ในเครือ Wittybuzz ไว้ด้วยกัน ใครที่เยี่ยมชมนี้ด้วย Internet Explorer แนะนำให้ดาวโหลด Firefox มาใช้จะดีกว่าครับ นอกจากลูกเล่นจะมีเยอะกว่า ยังมีเครื่องมือที่สนับสนุน SEO อีกด้วยครับ

Low Price High Money



ก่อนอื่นต้องขอขยายความคำว่า “Low Price High Money” กันก่อนครับว่า คำว่า Low Price นั้นมาจากคำว่า “Products Low Price” ครับก็คือสินค้าที่ราคาถูกนั่นเองครับ คำว่าถูกในใจผมก็คือราคาไม่เกิน $200 นั่นเองครับอาจอยู่ที่สักตั้งแต่ $10 ขึ้นไป ส่วนคำว่า High Money นั้นมาจากคำนี้ครับ “High Commission Money” ครับหมายถึงให้รายได้กับเราได้สูง

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านครับวันนี้แวะมาอัพเดทเนื้อหาให้ได้อ่านกันสักหน่อยนะครับเพื่อ เป็นแรงกระตุ้นให้ทุกท่านนั้นมุ่งมั่นสร้างรายได้ให้กับตนเองต่อไปอย่างเข้ม แข็งครับ เพราะว่าอนาคตประเทศไทยอยู่ในมือท่านแล้วครับ เมื่อท่านมีรายได้จากต่างประเทศสูงขึ้นจะทำให้ไม่เพียงแค่ทุกคนที่สร้างราย ได้เท่านั้นได้ประโยชน์แต่ทำให้ประเทศเรามีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วยครับ (นั่นไงมองการไกลไปโน่น..ฮะๆๆๆๆ)


ในตอนที่เราเริ่มสร้างรายได้นั้น ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านมองหาแต่สินค้าที่อาจให้ค่าคอมมิสชั่นสูงๆ เหตุก็เพราะว่าจะได้มีรายได้ที่สูงขึ้นนั่นเองครับ แต่ในความเป็นจริงอาจไม่ได้สูงอย่างที่คิด เพราะว่าสินค้าที่ให้ค่าคอมมิสชั่นสูงก็จะมีราคาแพงมากนั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น HDTV พวกนี้นะครับเหตุก็เพราะว่าสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือย และราคาแพงมากๆ ด้วยแม้จะให้ค่าคอมมิสชั่นเพียงแค่ 4% ในอเมซอนแต่ก็ยังถือว่าต่อชิ้นนั้นแพงมากๆ เลยทีเดียวครับ เช่น Samsung LN52B750 ในตอนนี้ค่าคอมน่าจะสัก $80 ต่อชิ้น เห็นแล้วเป็นไงครับเหอๆๆๆ มันน่าขายใช่หรือเปล่าหละครับผม แต่ก็แน่นอนครับเมื่อมันได้ค่าคอมขนาดนี้การแข่งขันคงไม่ต้องบอกละครับว่า เยอะมั๊ย ก็ลองค้นๆ หาดูครับว่าเยอะแค่ไหน ถ้าภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “หืดขึ้นคอ” ทำ SEO กันจนตาเหลือกก็ไม่สามารถทำอันดับได้ดีดีสักที ยิ่งถ้าคนที่ไม่เข้าใจถึงหลักการ SEO ในปัจจุบันด้วยแล้วคงไม่ต้องพูดกันเลยละครับ

เมื่อเหตุเป็นเช่นนั้นทำไมเราต้องไปต่อสู้บนถนนการแข่งขัน “สีเลือด (ทะเลสีแดง)” ด้วยเล่าเราก็ต้องหันมาดูสินค้าที่มีความจำเป็น ซึ่งอาจราคาต่ำกว่าแต่ให้ค่ำคอมมิสชั่นสูง เช่นราคาที่ $10-$200 อย่างที่ผมว่า (บางท่านเริ่มค้านแล้วครับว่า มันสูงตรงไหน) เอาหละผมให้ดูภาพก็แล้วกันครับเพราะว่า จะได้คิดตามได้ครับ
จากที่เห็นนี้สินค้าเหล่านี้ได้ค่าคอมฯ ตามเรทที่ยอดขายเพิ่มขึ้นแม้จะมีราคาไม่มากนัก แต่ก็ให้รายได้ที่เยอะมากๆ เมื่อเทียบกับรายได้ต่อวันที่ขายสินค้าราคาแพง

จาก ที่เห็นนี้สินค้าเหล่านี้ได้ค่าคอมฯ ตามเรทที่ยอดขายเพิ่มขึ้นแม้จะมีราคาไม่มากนัก แต่ก็ให้รายได้ที่เยอะมากๆ เมื่อเทียบกับรายได้ต่อวันที่ขายสินค้าราคาแพง


คำว่าคอมมิสชั่นสูงไม่ได้หมายถึงการได้ค่าคอมฯ มาต่อชิ้นหลายร้อยเหรียญครับ แต่การได้ค่าคอมที่สูงกว่านั้นมันต่างกัน เช่นทีวีที่ผมยกตัวอย่างอาจได้ค่าคอมฯ เพียงแค่ 4% เท่านั้นเองครับแต่สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อยู่ในกลุ่ม Electronics นั้นได้ค่าคอมฯ ตามจำนวนยอดขายที่เกิดขึ้นครับ คือ 4%-8.5% นั่นเองครับบางอย่างได้สูงถึง 15% เลยครับ สินค้าในกลุ่มเหล่านี้น่าขายกว่ากลุ่มแรกมากๆ ครับเพราะว่า

1. สินค้าราคาถูก ขายง่าย
2. การแข่งขันต่ำ คนทำน้อย
3. ได้คอมมิสชั่นตามยอดขาย
4. ทำให้ยอดขายเราสามารถขายได้เยอะ
5. อื่นๆ อีกแล้วแต่จะหาได้นะครับ

จากที่ผมทำๆ สินค้าในท้องตลาดมาไม่ได้จำกัดแค่ Amazon ที่เดียวเท่านั้นสินค้าเหล่านี้ทำเงินให้มากกว่าสินค้าราคาแพงหลายเท่าครับ เพราะขายได้ทุกวันและเยอะๆ ด้วยครับลองนึกภาพดูว่าแค่ได้ค่าคอมฯ ชิ้นละ $1 ถ้าเราขายได้วันละ 30 ออเดอร์ก็ปาเข้าไป $30 แล้วนะครับแล้วถ้าเกิดว่าเราขายได้อย่างนี้ตลอดทั้งเดือนเราได้ค่าคอมฯ จาก 4% เป็น 8% หรือ 8.5% รายได้เราจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเลยทีเดียวครับเช่น ถ้าได้ที่ 8% นะครับชิ้นนี้ที่ตอนแรกเราได้แค่ $1 ต่อชิ้นจะได้ที่ $2 ต่อชิ้นถ้าขายได้ 30 ชิ้นต่อวันก็เท่ากับเรามีรายได้ $60 ต่อวันแบบนิ่งๆ กันเลยก็ว่าได้ครับแบบไม่ต้องรอลุ้นว่าอาทิตย์นี้จะมียอดขายได้ HDTV กี่เครื่องกันเลยก็ว่าได้ครับ ผมจะลองคำนวนคร่าวๆ ให้เห็นกันชัดมากขึ้นนะครับว่า ถ้าเราสามารถทำรายได้ที่ $60 ต่อวันได้ละก็ลองเอามารวมๆ กันต่อเดือนนะครับจะได้ดังนี้ครับ

$60×30 = $1800 คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 35x$1800 = 63,000 บาทโดยประมาณครับ เป็นไงครับรายได้ไม่ใช่น้อยเลยนะครับเนี่ยะ ตรงนี้แหละครับคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการสร้างรายได้จาก “บล็อกการตลาด” เพราะรายได้เหล่านี้จะเป็นรายได้ที่พอจะทำให้เรามีเงินซื้ออะไรที่เป็นทรัพย์สินได้อีกมากมายเลยทีเดียวครับ

ครับและนี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมเองอยากจะมาบอกเล่าให้ได้อ่านกันนะครับ เพราะหลายๆ ท่านนั้นเริ่มต้นจากสิ่งที่ยากก็อาจทำให้ท้อแท้ได้ อย่ามองข้ามสิ่งที่อยู่ไกล้ตัวเราครับเพราะสิ่งนั้นที่เขาเรียกกันว่า “เส้นผมบังภูเขา” เหมือนๆ กับที่เราเคยๆ เป็นกันมาตลอดจนทุกวันนี้ละครับ.

ที่มา : เมกเมนนี่ดอทคอม

0 Comments:

Post a Comment



Newer Post Older Post Home