A Blogger by Beamcool

บล็อค ที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ การตลาด seo และ วิธีการ หาเงิน บน อินเตอร์เน็ต เทคนิคในการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต ( เราหมายถึงการ ทำเงิน บน อินเตอร์เน็ต จริง ๆ ที่ไม่ใช่การชวนเข้า mlm แต่อย่างใดครับ) รวมถึง บริการออนไลน์ ออฟไลน์ ต่าง ๆ ในเครือ Wittybuzz ไว้ด้วยกัน ใครที่เยี่ยมชมนี้ด้วย Internet Explorer แนะนำให้ดาวโหลด Firefox มาใช้จะดีกว่าครับ นอกจากลูกเล่นจะมีเยอะกว่า ยังมีเครื่องมือที่สนับสนุน SEO อีกด้วยครับ


ผมเคยได้อ่านข่าวบนเว็บไซต์สมัครงาน CareerBuilder.com เจอเรื่องที่โอ้แม่เจ้าไม่น่าเชื่อครับว่าจากสำรวจความคิดเห็นหัวหน้างานอเมริกันที่ทำหน้าที่พิจารณาตกลงรับคนเข้าทำงาน พบว่า 1 ใน 5 ของหัวหน้างานในกลุ่มตัวอย่างมีการเข้าไปชมบล็อก (blog) หรือเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเพื่อศึกษานิสัยใจคอผู้สมัครให้มากขึ้น (บอกผมมาตรง ๆ ก็ครับว่าหัวหน้าบุคคลแอบเล่นhi5 แล้วมาห้ามผมเล่นทำไม) โดยมากกว่า 34 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเคยตัดชื่อผู้สมัครออกทันทีหลังจากเข้าชมบล็อกแล้ว(เออ พี่ใช้อะไรมาคิดเนี่ยครับ พี่ครับ)

รายชื่อบุคคลอ้างอิง อาจจะเก่าเกินจะเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาเข้าทำงานแล้วสรุปต่อไปผมใครที่ ชอบเอากำนันไปยืนยันว่านาย ก. ลูกตามี หลายยายแม้น จะเส้นก๋วยจั๊บเข้ามาทำงานเริ่มที่จะยากมากขึ้น เพราะจากการสำรวจท่านหัวหน้างานกว่า 3,169 คนของเว็บไซต์สมัครงานออนไลน์ CareerBuilder.com พบว่ากว่า 22 เปอร์เซ็นต์มีการเข้าไปอ่านประวัติส่วนตัวในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมของผู้ สมัครงาน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยสำรวจได้ 11 เปอร์เซ็นต์ในปี 2006 โดย 9 เปอร์เซ็นต์บอกว่า ยังไม่เคยเข้าไปหาข้อมูลผู้สมัครงานจากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอย่าง Facebook หรือ MySpace เลย แต่กำลังเตรียมการพิจารณาผู้สมัครด้วยวิธีนี้ในอนาคต(อย่านะครับคุณพี่บุคคล ผมรู้นะว่าคุณจะมาแอบดูสาว ๆ ในบัญชีเพื่อน ๆ ผม แม้แผนสูงจังนะตัวเอง)

โดยจุดที่น่าสนใจคือ การสำรวจพบว่า 34 เปอร์เซ็นต์ ของหัวหน้างานที่เข้าไปชมบล็อกของผู้สมัครแล้วไปพบคอนเทนท์"ด้านลบ"จนทำให้ สามารถตัดรายชื่อผู้สมัครรายนั้นออกอย่างไม่ลังเล เรื่องนี้การสำรวจพบว่า 41 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างมองว่าการโพสต์เล่าเรื่องการดื่มเหล้าและการใช้ ยาเสพติดบนบล็อกถือเป็นคอนเทนท์ด้านลบร้ายแรงอันดับหนึ่งคอนเทนท์ ด้านลบร้ายแรงอันดับสองคือการโพสต์ภาพที่แสดงถึงความก้าวร้าวและไม่เหมาะสม โดย 40 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างเทคะแนนให้กับข้อนี้
ยังมีคอนเทนท์ด้านลบอื่นๆได้แก่ ข้อความที่แสดงว่าผู้โพสขาดทักษะการสื่อสาร, มีการหลอกลวงคุณสมบัติและวุฒิการศึกษา รวมถึงการแสดงทัศนคติที่แบ่งแยกเรื่องชาติพันธุ์ เพศ และศาสนา อย่างไรก็ตาม การ สำรวจยังพบว่าหัวหน้างานถึง 24 เปอร์เซ็นต์ที่ตกลงใจรับผู้สมัครเข้าทำงานทันทีที่ได้อ่าน บล็อคคอนเทนท์ด้านบวกอันดับหนึ่งอันดับเดียว คือคอนเทนท์ที่ให้ความรู้สึกว่าผู้สมัครมีทักษะการสื่อสารที่ดี ภาพลักษณ์ที่ดูมืออาชีพน่าเชื่อถือ และมีความสนใจในหลายเรื่องรอบตัว เหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้ประวัติที่ผู้สมัครส่งเป็นหลักฐานนั้นมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

ซึ่งตอนนี้หัวหน้างานจำนวนมากใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ คุณสมบัติผู้สมัครงาน เพื่อจะหาข้อมูลภาพรวมว่าผู้สมัครรายนั้นมีความเหมาะสมที่จะเข้าทำงานใน องค์กรหรือไม่ เพราะฉะนั้น ผู้หางานทั้งหลายควรจัดการประวัติบนเว็บเครือข่ายสังคมให้ดีใครคนไหนที่กิ๊ก มาตีกันก็ทำประวัติดี ๆ เพื่อภาพลักษ์ที่ดีขึ้นนะตัวเพราะพนักงานที่มีงานทำแล้วในสหรัฐฯ บอกว่าการพัฒนา???? คอนเทนท์และภาพพจน์บล็อกให้ดูมืออาชีพและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำไว้นะครับว่าคุณบรรดา นักล่างานไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง จำไว้นะครับ ภาพลักษ์ออนไลน์คุณดี โอกาศได้งานคุณก็มีมากขึ้นนะครับ

ที่มา : มาร์เก็ตติ้งไบท์ดอทคอม

0 Comments:

Post a Comment



Newer Post Older Post Home